ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพิ่มแตะ 13 จังหวัด พ่วงต่ออายุสิ้นสุดกลางกันยายนในญี่ปุ่น

374
0
Share:

นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น โยชิฮิเดะ ซูงะ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพิ่มขึ้นอีก 7 จังหวัด ทำให้มีจังหวัดที่ถูกใช้กฎหมายดังกล่าวครอบคลุมเป็น 13 จังหวัด นอกจากนี้ ประกาศต่ออายุกฎหมายสถานการณ์ฉุกเฉินจากเดิมที่จะสิ้นสุดวันที่ 31 สิงหาคมไปถึงวันที่ 12 กันยายน 2564 สาเหตุจากมาตรการที่ใช้ควบคุมและป้องกันสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ไม่สามารถลดจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งรายวัน และยอดสะสมลงได้ ท่ามกลางสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 รอบที่ 5 ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งในขณะนี้สายพันธุ์เดลต้า หรืออินเดียกลายเป็นสายพันธุ์หลักโดยพบมากถึง 90% ของจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่

สำหรับจังหวัดที่เพิ่มเติมในการใช้กฎหมายสถานการณ์ฉุกเฉิน ได้แก่ อิบารากิ โตชิงิ กันมะ ชิซูโอกะ เกียวโต เฮียงโป และฟูกูโอกะ ขณะที่กรุงโตเกียว คานากาว่า ชิบะ ไซตามะ โอซาก้า และโอกินาว่า ถูกกฎหมายสถานการณ์ฉุกเฉินมีผลมาก่อนการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและมีผลต่อเนื่องไปสิ้นสุดกลางเดือนกันยายน

สถานการณ์การติดเชื้อในญี่ปุ่นทวีความรุนแรงต่อเนื่อง เมื่อวันศุกร์ที่ 13 สิงหาคม ญี่ปุ่นทำสถิติติดเชื้อรายวันมากถึง 20,362 ราย มากเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ สอดรับกับเมื่อวันจันทร์ที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา จำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 มีอาการรุนแรงรายใหม่เพิ่มสูงถึง 1,646 ราย ทำสถิติมากเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่

สำหรับการฉีดวัคซีนในประเทศญี่ปุ่น พบว่าข้อมูลถึงวันอังคารที่ 17 สิงหาคม มีประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ครบโดสราว 37.6%

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข ญี่ปุ่น รายงานว่า ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาถึงเมื่อวานนี้ 17 สิงหาคม พบผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้น 14,854 ราย ส่งผลยอดสะสมเป็น 1,159,945 อยู่อันดับที่ 28 ของโลก และพบผู้เสียชีวิตรายใหม่ 23 ราย ทำให้ยอดเสียชีวิตสะสมเป็น 15,431 ราย