ประธานาธิบดีสหรัฐฯ สั่งระบายน้ำมันสำรอง อีก 10 ล้านบาร์เรล ตอบโต้โอเปกพลัสลดการผลิต

ประธาธิบดีโจ ไบเดน ได้แสดงท่าทีผิดหวังกับการตัดสินใจของโอเปกพลัส ที่มีมติปรับลดโควตาการผลิตน้ำมันในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจโลกกำลังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์สงครามในยูเครน และประธานาธิบดีสั่งให้กระทรวงพลังงานระบายน้ำมันดิบอีก 10 ล้านบาร์เรลจากคลังสำรองน้ำมันยุทธศาสตร์ในเดือนหน้า นอกจากนี้รัฐบาลจะปรึกษาหารือกับสภาคองเกรสเพื่อเพิ่มเครื่องมือและอำนาจอื่นๆ เพื่อลดการควบคุมของโอเปกต่อราคาพลังงาน

ท่าทีของสหรัฐฯ มีขึ้นหลังจากชาติสมาชิกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน หรือ โอเปกรวม 13 ชาตินำโดยซาอุดิอาระเบีย กับชาติพันธมิตรอีก 11 ชาตินำโดยรัสเซีย รวมเรียกว่า โอเปกพลัส บรรลุข้อตกลงร่วมกันเมื่อวันพุธว่า จะลดการผลิตน้ำมันวันละ 2 ล้านบาร์เรลตั้งแต่เดือน พ.ย. เพื่อดันราคาน้ำมันดิบให้สูงขึ้น หลังจากร่วงลงไปอยู่ที่เกือบ 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลจากเคยสูงกว่า 120 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลช่วงต้นเดือน มิ.ย.

โดยรัฐบาลสหรัฐฯ พยายามย้ำข้อเรียกร้องให้โอเปกพลัสเพิ่มการผลิตน้ำมันเพื่อฉุดราคาน้ำมันให้ลดลงและบรรเทาผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ในช่วงที่กำลังจะมีการเลือกตั้งทั่วไปกลางเทอมในสหรัฐฯ ในเดือนหน้า

ขณะที่ความเคลื่อนไหวในรัฐสภาสหรัฐฯ เพื่อผลักดันร่างกฎหมายที่มุ่งลดอิทธิพลของโอเปกต่อตลาดน้ำมันอาจมีแนวโน้มได้รับการสนับสนุนมากขึ้นจากทำเนียบขาว ภายใต้ร่างกฎหมาย No Oil Producing and Exporting Cartels หรือ NOPEC จัดทำขึ้นเพื่อปกป้องผู้บริโภคและธุรกิจของสหรัฐฯ จากราคาน้ำมันพุ่งสูงโดยไม่มีเหตุผลอันควร และเปิดช่องให้สามารถฟ้องร้องเอาผิดกับชาติสมาชิกโอเปกและพันธมิตรจากการปรับลดการผลิตทำให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกพุ่งสูง ซึ่งร่างกฎหมายผ่านการเห็นชอบจากคณะกรรมาธิการวุฒิสภาสหรัฐฯ เมื่อต้นเดือน พ.ค. แต่ยังต้องรอการลงมติจากวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และการลงนามโดยประธานาธิบดีไบเดนเพื่อให้มีผลบังคับใช้