ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เปิดแผนอัดฉีดเศรษฐกิจกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์

โจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ วัย 78 ปี ซึ่งมีอายุมากที่สุดในประวัติศาสตร์ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เตรียมเปิดเผยมาตรการและแพคเกจกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐที่มีมูลค่า 1.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 46.5 ล้านล้านบาท ซึ่งรวมถึงมาตรการให้เงินช่วยเหลือเพิ่มเติม 1,400 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 43,400 บาทด้วย โดยวางเป้าหมาย 3 ด้าน คือ การแก้ไขปัญหาโรคระบาดโควิด-19 การเร่งโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 และการให้ความช่วยเหลือการเงินกับประชาชน รัฐท้องถิ่น รัฐบาลท้องถิ่น และธุรกิจเอกชน
.
แผนกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าวเรียกว่า แผนกู้ภัยอเมริกัน หรือ American Rescue Plan ซึ่งวางแนวทางการปฏิบัติงานสำคัญ เช่น การจัดการวัคซีนป้องกันโควิด-19 จำนวน 100 ล้านโดสให้ได้ภายใน 100 วันแรกหลังเข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ขณะที่เตรียมรองรับเป้าหมายในการกลับมาเปิดโรงเรียนให้ได้ภายในฤดูใบไม้ผลินึ้ ขณะเดียวกัน อาจจะคลอดมาตรการความช่วยเหลือที่มีต่อภาวะเศรษฐกิจสหรัฐให้เกิดความมั่นคงมากขึ้น
.
แผนกู้ภัยอเมริกัน จะครอบคลุมถึงการให้เงินช่วยเหลือเพิ่มเติมอีกจำนวน 1,400 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 43,000 บาท ซึ่งเป็นมูลค่าเพิ่มขึ้นจากมาตรการให้เงินช่วยเหลือการเงินที่กำหนดไว้ 600 ดอลลาร์สหรัฐ หรืออกว่า 18,600 บาท ทำให้จะได้รับเงินช่วยเหลือสุทธิเป็น 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 62,000 บาท ต่อมาเป็นการขยายมาตรการชั่วคราวในการรักษาผลประโยชน์ในภาวะว่างงาน และการพักการจ่ายหนี้สิน รวมถึงการพักการยึดสินทรัพย์ไปจนถึงเดือนกันยายนปีนี้ นอกจากนี้ เตรียมผลักดันนโยบายระยะยาวในการปรับขึ้นค่าจ้างแรงงานรายชั่วโมงขั้นต่ำเป็น 15 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 465 บาทต่อชั่วโมง และขยายนโยบายการจ่ายค่าจ้างในช่วงการลาพัก
.
สำหรับการแก้ปัญหาโรคระบาดโควิด-19 ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นไปตามแผนของว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐนายโจ ไบเดน นั้น จะมีการจัดงบประมาณเป็นจำนวน 400,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 12.4 ล้านล้านบาท เข้าแก้ปัญหาโดยตรงกับเรื่องดังกล่าว โดยแบ่งงบประมาณออกเป็น 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 620,000 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่างบประมาณที่อนุมัติไปแล้วโดยรัฐสภาสหรัฐที่ 8,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 248,000 ล้านบาท ด้วยการจัดตั้งศูนย์บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ในลักษณะปูพรมทั่วสหรัฐอเมริกา และจัดตั้งหน่วยเคลื่อนที่ฉีดวัคซีนเจาะเข้าพื้นที่ที่ยากในการเข้าถึงประชาชน
.
จากนั้น งบประมาณอีกส่วนหนึ่งที่มีมูลค่า 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1.55 ล้านล้านบาท จะใช้เพื่อขยายการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เชิงรุกอย่างเข้มข้น เพื่อเป้าหมายในการเปิดการเรียนการสอนของโรงเรียนส่วนใหญ่ให้ได้ภายในเดือนมีนาคมนี้ และจัดงบประมาณ 130,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 4 ล้านล้านบาท ที่อาจจะจัดสรรให้กับความช่วยเหลือในการกลับมาเปิดโรงเรียนอีกครั้ง โดยปราศจากความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสเพิ่มขึ้นในอนาคต
.
แผนกู้ภัยอเมริกันยังรวมถึงการจัดงบประมาณในการว่าจ้างเจ้าหน้าที่สาธารณสุขให้ได้ 100,000 คน เพื่อให้ทำงานเน้นไปที่การสร้างแรงผลักดันให้ประชาชนชาวอเมริกันได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 และทำงานการติดตามผู้ติดเชื้อไวรัสดังกล่าว
.
ทั้งนี้ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคระบาดแห่งชาติสหรัฐ หรือ CDC เปิดเผยว่า วันนี้ 14 มกราคม 2564 (ตามวันและเวลาในสหรัฐอเมริกา) พบจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา พุ่งทะยานสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ถึง 180,811 ราย ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมพุ่งขึ้นเป็น 23,800,130 ราย อยู่อันดับที่ 1 ของโลก ขณะที่ผู้เสียชีวิตรายใหม่ใน 24 ชั่วโมงผ่านมา พุ่งขึ้น 3,302 ราย ทำให้ยอดเสียชีวิตสะสมเป็น 397,235 ราย