ปิดอย่างสวยงามด้ชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดเฉียด 100 จุด

778
0
Share:

ปิดสวยงาม! ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดเฉียด 100 จุด ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซปิดใกล้ 57 ดอลลาร์ ราคาทองคำพลิกปิดเหนือ 1,800 ดอลลาร์

เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ (ตามเวลาในสหรัฐ) ตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐ ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ระดับ 31,148 จุด +92 จุด หรือ +0.30% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 3,886 จุด +15 จุด หรือ +0.39% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 13,856 จุด +78 จุด หรือ +0.57% ส่งผลดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 และนาสแดค ปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ ในสัปดาห์นี้ ดัชนีหุ้นสำคัญทั้ง 3 แห่ง ปิดพุ่งขึ้น +3.9%, +4.7% และ 6% ตามลำดับ นอกจากนี้ ยังทำสถิติดัชนีหุ้นปิดรายสัปดาห์ที่ดีที่สุดในรอบ 2 สัปดาห์กว่า หรือตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปี 2563 เป็นต้นมา

สาเหตุจากท่ามกลางตัวเลขการจ้างงานชาวอเมริกันในเดือนมกราคมเพิ่มขึ้น 49,000 คน ซึ่งต่ำกว่าที่คาดเล็กน้อยที่ 50,000 คน แต่อัตราการว่างงานลดลงจากเดิม 6.7% เหลือ 6.3% ซึ่งดีกว่าที่คาดไว้ นอกจากนี้ วุฒิสมาชิกในรัฐสภาสหรัฐ ได้ผ่านร่างกฎหมายฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐมูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเกือบ 59 ล้านล้านบาท

ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 56.85 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.83 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.1% ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 59.34 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +0.88 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ส่งผลราคาน้ำมันดิบพุ่งสูงสุดในรอบ 12 เดือนผ่านมา และในสัปดาห์นี้ ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ทะยานขึ้นกว่า 6% นอกจากนั้น ยังทำสถิติราคาน้ำมันดิบรายสัปดาห์ที่ดีที่สุดในรอบ 3 สัปดาห์กว่า หรือนับตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2563 เป็นต้นมา

สาเหตุจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ได้แก่ อัตราการว่างงานลดลงจากเดิม 6.7% เหลือ 6.3% ซึ่งดีกว่าที่คาดไว้ ชาวอเมริกันขอใช้สิทธิสวัสดิการช่วงว่างงานรายสัปดาห์เหลือเพียง 779,000 คน ซึ่งต่ำกว่าที่คาดไว้ ปริมาณสำรองน้ำมันดิบรายสัปดาห์ในสหรัฐลดต่ำลงเหลือเพียง 475.7 ล้านบาร์เรล ทำสถิติลงต่ำมากที่สุดในรอบ 11 เดือน หรือตั้งแต่มีนาคม 2563

ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,813 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ +21.80 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ +1.2% สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐถูกเทขายส่งท้ายสัปดาห์ กดดันอ่อนค่าลงทั้งวัน ขณะเดียวกันผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพลิกลดลง ท่ามกลางสภาสูงในสหรัฐ ได้ผ่านร่างกฎหมายฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐมูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเกือบ 59 ล้านล้านบาท