ผลวิจัยชี้วัคซีนไฟเซอร์ป้องกันอาการรุนแรงในผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์อังกฤษ-แอฟริกาใต้ได้

535
0
Share:

หนังสือพิมพ์เซาธ์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ ได้รายงานว่า กระทรวงสาธารณสุขของกาตาร์ได้พบว่าผลการศึกษาการใช้งานจริง (Real-World Study) พบว่าวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์และไบออนเทคนั้นสามารถป้องกันการเกิดอาการรุนแรงในกลุ่มผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์อังกฤษและแอฟริกาใต้ได้ดี แต่ยังมีประสิทธิภาพลดลงในการป้องกันไม่ให้เกิดการติดเชื้อ

.

ผลวิจัยที่ยื่นต่อวารสารการแพทยนิวอิงแลนด์ (NEJM) เผยว่าวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จะมีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ได้มากแค่ไหน เนื่องจากเชื้อสายพันธุ์ใหม่นั้นเกิดขึ้นหลังจากมีการพัฒนาวัคซีนแล้ว โดยนักวิจัยได้ทำการวิเคราะห์ข้อมูลในขณะที่เชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ 2 สายพันธุ์ ได้แก่ B.1.1.7 ที่พบครั้งแรกในอังกฤษ และ B.1.351 ที่พบครั้งแรกในแอฟริกาใต้ กำลังมีการแพร่ระบาดมากขึ้นในประเทศกาตาร์

.

ผลวิจัยพบว่าเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ที่กำลังแพร่ระบาด เหมือนทดลองกับวัคซีนของไฟเซอร์และไบออนเทคมีประสิทธิภาพมากถึง 97.4% ในการป้องกันไม่ให้เกิดอาการรุนแรงและการเสียชีวิตในผู้ติดเชื้อโควิด-19 แต่วัคซีนดังกล่าวมีประสิทธิภาพเพียง 75% ในการป้องกันการติดเชื้อสายพันธุ์ B.1.351 หรือลดลงราว 20%

.

ทั้งนี้ การทดลองทางการแพทย์ที่จัดทำขึ้นก่อนเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่นั้นพบว่า วัคซีนของไฟเซอร์และไบออนเทคมีประสิทธิภาพถึง 95% ในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19