ฝุ่นเสี่ยงหนัก!! แต่ยังให้เปิดเรียน

กรมควบคุมมลพิษ รายงานข้อมูลคุณภาพอากาศ ประจำวันที่ 21 มกราคม 2563 ว่า ผลการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยกรมควบคุมมลพิษร่วมกับกรุงเทพมหานคร จำนวน 52 สถานี ตรวจวัดค่าได้ 48 – 89 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จากค่ามาตรฐานไม่เกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
.
โดยปริมาณฝุ่นละอองในภาพรวมมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเกือบทุกพื้นที่จากช่วงเช้าของเมื่อวาน โดยพบพื้นที่ที่มีปริมาณฝุ่นละอองอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ หรือพื้นที่สีส้ม 50 พื้นที่ ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น และติดตามสถานการณ์ฝุ่นละอองอย่างใกล้ชิด
.
นายประเสริฐ บุญเรือง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ได้ตั้งศูนย์อำนวยการช่วยเหลือสถานศึกษาประสบภัยพิบัติ ของกระทรวงศึกษาที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานทุกจังหวัด เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับโรงเรียนที่ประสบปัญหาฝุ่นพิษ ซึ่งพื้นที่ใดที่โรงเรียนตั้งอยู่มีฝุ่น PM 2.5 อยู่ระดับ 101-200 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จะต้องหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง ไม่ให้เข้าแถวตอนเช้า และทางโรงเรียนจะต้องทำความสะอาดห้องเรียน อาคารสถานที่ พร้อมกับแจกหน้ากากอนามัยให้นักเรียนทุกคน
.
ส่วนค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศที่ 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ถือว่าอยู่ในระดับกลาง เริ่มอันตราย แต่ที่ห้ามไม่ให้นักเรียนออกจากห้องเรียนเลยคือคุณภาพอากาศเป็นสีส้ม 101 – 200 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และถ้าคุณภาพอากาศอยู่ในระดับสีแดง คือตั้งแต่ 201 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรขึ้นไป จะต้องปิดทำการเรียนการสอนชั่วคราว โดยผู้อำนวยการโรงเรียนมีอำนาจในการสั่งปิดโรงเรียนชั่วคราว 15 วัน หากเกิน 15 วันเป็นอำนาจของผู้อำนวยการเขต
.
นอกจากนี้กระทรวงศึกษาธิการได้จัดทำหน้ากากอนามัยกว่า 1 แสนชิ้นเพื่อแจกจ่ายให้กับโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง เมื่อคุณภาพอากาศอยู่ในระดับสีส้ม