ฟอร์ด มอเตอร์ เจรจาขายโรงงานในเยอรมนีให้บีวายดี หลังจ่อปลดพนักงานในยุโรปกว่า 3,200 คน

ฟอร์ด มอเตอร์ บริษัทผลิตรถยนต์รายใหญ่แห่งหนึ่งของโลกจากประเทศสหรัฐอเมริกา กำลังอยู่ในการเจรจากับบีวายดี ผู้ผลิตรถไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดในโลกจากจีนแผ่นดินใหญ่ เกี่ยวกับการเสนอขายโรงงานผลิตรถยนต์ฟอร์ดในประเทศเยอรมนีที่มีชื่อว่า ซาร์หลุยส์ ซึ่งโรงงานดังกล่าวนั้นถูกกำหนดปิดตัวลงในปี 2025 อย่างไรก็ตาม การเจรจาของทั้งฟอร์ด มอเตอร์ และบีวายดี เป็นช่วงเริ่มต้น ซึ่งยังต้องประเมินแนวโน้มของผลการเจรจากันต่อไป

ในขณะที่ เมื่อวานนี้ ฟอร์ด มอเตอร์ ประกาศเตรียมปลดพนักงานมากถึง 3,200 คนในยุโรป พร้อมทั้งเตรียมย้ายสายงานพัฒนาผลิตภัณฑ์บางส่วนกลับไปที่สหรัฐอเมริกาด้วย สำหรับจำนวนพนักงานดังกล่าว 3,200 คน ประกอบด้วย ฝ่ายพัฒนาสินค้าหรือรถยนต์จำนวน 2,500 คน และ ฝ่ายบทบาทงานธุรการ-การจัดการทั่วไป จำนวน 700 คน ซึ่งการปลดพนักงานจำนวนมากในครั้งนี้จะอยู่ในประเทศเยอรมนีมากที่สุด

สาเหตุที่ฟอร์ด มอเตอร์ ต้องเดินหน้าลดค่าใช้จ่ายในยุโรปอย่างรุนแรง เป็นผลจากค่าวัตถุดิบในการผลิตแบตเตอรีสำหรับรถไฟฟ้าที่เพิ่มสูงมากขึ้น นอกจากนี้ ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐและยุโรปเกิดการชะลอตัวในปีนี้ สำหรับปัจจัยในวงการรถยนต์อีก 1 ประเด็นใหญ่ คือ เทสลาเปิดสงครามราคารถไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องในตลาดขนาดใหญ่ทั่วโลกรวมถึงในยุโรปด้วย

ในส่วนพนักงานของฟอร์ด มอเตอร์ ที่โรงงานในเมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี มีประมาณ 14,000 คน ในจำนวนดังกล่าว พบว่ามี 3,800 คนในศูนย์พัฒนาสินค้าในย่านเมอร์เกนิชที่ได้รับแจ้งแผนการปรับลดพนักงานในการประชุมสภาแรงงานเมื่อวันจันทร์ที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา

ฟอร์ด มอเตอร์ สำนักงานใหญ่ในรัฐมิชิแกน สหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีการประชุมกับสภาแรงงานประเทศเยอรมนี บริษัทจำเป็นต้องมีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้นในอนาคต เมื่อเปลี่ยนมาผลิตรถไฟฟ้า

ในปี 2022 ฟอร์ด มอเตอร์ ประกาศแผนการลงทุน 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 66,000 ล้านบาทในการขยายการผลิตของโรงงานในเมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี เพื่อผลิตรถไฟฟ้าเข้าสู่ตลาดล่าง

ทั้งนี้ ฟอร์ด มอเตอร์ มีพนักงานในยุโรปประมาณ 45,000 คน กำลังวางแผนผลิตรถไฟฟ้า 6 รุ่นในยุโรป โดยมีโรงงานประกอบแบตเตอรี่ในเยอรมนี และโรงงานร่วมทุนผลิตนิกเกิลในประเทศตุรกี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันรถยนต์ไฟฟ้าในทวีปนี้