มาเลระทึก! ยอดติดโควิด-19 รายวันพุ่งกว่า 7,400 ยอดตายกว่า 60 สูงเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่
กระทรวงสาธารณสุข ประเทศมาเลเซีย เปิดเผยว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รอบที่ 3 ในรอบ 24 ชั่วโมงถึงวันนี้ 27 พฤษภาคม 2564 พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 7,478 ราย ไม่เพียงทำสถิติยอดผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ หรือนับตั้งแต่เกิดการระบาดในมาเลเซียเมื่อปี 2563 เป็นต้นมา แต่ยังทำสถิติติดเชื้อรายวันเกิน 7,000 รายเป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกันของมาเลเซีย ทำให้ตัวเลขสะสมพุ่งเป็น 533,367 ราย โดยอยู่อันดับที่ 42 ของโลก และเป็นอันดับ 3 ของอาเซียน ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม ยอดติดเชื้อรายวันพุ่งสูงแตะ 7,289 ราย ทำสถิติยอดผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หรือนับตั้งแต่เกิดการระบาดในมาเลเซียเมื่อปี 2563 เป็นต้นมา
.
นอกจากนี้ พบผู้เสียชีวิตรายใหม่เพิ่มขึ้น 63 ราย ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ หรือนับตั้งแต่เกิดการระบาดในมาเลเซียเป็นต้นมา ที่สำคัญมียอดเสียชีวิตรายวันที่มากกว่า 60 รายถึง 3 วันติดต่อกัน ส่งผลให้ยอดเสียชีวิตสะสมเป็น 2,432 ราย ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2564 มาเลเซียทำสถิติยอดเสียชีวิตรายวันที่ 61 ราย สูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ หรือนับตั้งแต่เกิดการระบาดในมาเลเซียเป็นต้นมา
.
สถานการณ์การระบาดในมาเลเซียมีความรุนแรง และเป็นกังวลสูงอย่างมาก เมื่อหนึ่งในตัวชี้วัดเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อ 1 ล้านคนในช่วง 7 วันผ่านมานั้น มาเลเซียมีจำนวนผู้ติดเชื้อเฉลี่ยที่ 205.1 รายเมื่อวันอาทิตย์ที่พึ่งผ่านไป ซึ่งอัตราดังกล่าวนี้ ทำให้มาเลเซียมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อประชาชน 1 ล้านคนใน 7 วันผ่านมา สูงกว่าประเทศอินเดียซึ่งอยู่ที่ 150.4 ราย นอกจากนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนประชากรของทั้ง 2 ประเทศ พบว่ามาเลเซียมีประชากร 32 ล้านคน ในขณะที่อินเดียมีประชากรมากมายถึง 1,400 ล้านคน นั่นหมายถึงความรุนแรงของการแพร่ระบาดในมาเลเซียมีความรุนแรงและเข้มข้นมากกว่าอินเดียมาก
.
หลังจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย นายมุฮ์ยิดดิน ยัซซิน ได้ประกาศมาตรการปิดล็อกประเทศไม่เต็มรูปแบบเมื่อวันพุธที่ 12 พฤษภาคม จนถึงวันที่ 7 มิถุนายน 2564 รวมระยะเวลานานถึง 27 วัน ส่งผลให้เป็นการใช้มาตรการครั้งที่ 3 นับตั้งแต่เกิดโรคระบาดโควิด-19 ในประเทศมาเลเซียเมื่อปี 2563 เป็นต้นมา แต่เมื่อเข้าสู่สัปดาห์ที่ 3 ของมาตรการนี้ กลับพบว่าสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ไม่ลดลงแต่อย่างใดโดยเฉพาะยอดผู้ติดเชื้อรายวีนที่ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 2 ครั้ง ดังนั้น ประชาชนเริ่มแสดงความไม่พอใจต่อมาตรการที่บังคับใช้ในครั้งนี้
.
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กล่าวว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศมาเลเซียยังคงขับเคลื่อนกันได้ แต่การรวมตัวของประชาชนในที่สาธารณะ การจัดงานกิจกรรมทุกรูปแบบ การรับประทาน และดื่มภายในร้านหรืออาคาร การเดินทางระหว่างกันภายในรัฐ และระหว่างรัฐ ทุกอย่างที่กล่าวมานี้ จะไม่อนุญาตให้ดำเนินการ
สำหรับกรณีที่จะได้รับการยกเว้นเพื่อประชาชนจะได้รับอนุญาตให้เดินทางภายในรัฐ หรือระหว่างรัฐนั้น จะได้รับการพิจารณาเฉพาะการไปทำงานที่จำเป็น มีนัดหมายฉุกเฉินหรือเร่งด่วนกับแพทย์ มีนัดหมายรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 และการเยี่ยมเยียนคู่สามีภรรยา
.
สาเหตุที่นายกรัฐมนตรีมาเลเซียประกาศปิดล็อกประเทศรอบที่ 3 ในครั้งนี้ เกิดจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รอบที่ 3 ทวีความรุนแรงต่อเนื่อง โดยพบว่าเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2564 พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 4,519 ราย ทำสถิติยอดผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุดในรอบ 3 เดือนเป็นวันที่ 2 ต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 7 ก่อนหน้านั้น มาเลเซียก็ทำสถิติติดเชื้อรายวันที่ 4,498 ราย มากเป็นประวัติการณ์เช่นเดียวกัน
.
นอกจากนี้ สาเหตุการติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นมากกว่าวันละ 4,000 ราย ซึ่งสูงสุดในรอบ 3 เดือนผ่านมา เกิดจากรัฐมนตรีกระทรวงสหพันธ์ดินแดนมาเลเซียอนุญาตให้สามารถจัดกิจกรรมวันฮารีรายา และรอมฎอน ท่ามกลางมาตรการควบคุมการเคลื่อนย้าย หรือ MCO ของรัฐบาลมาเลเซียที่ประกาศบังคับใช้ สื่อในมาเลเซียรายงานว่า เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความไม่พอใจต่อประชาชนส่วนใหญ่ที่ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการเคลื่อนย้าย หรือ MCO
.
ผู้อำนวยการสาธารณสุข มาเลเซีย เปิดเผยว่า สถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 รอบที่ 3 จะเลวร้ายมากกว่าในปัจจุบัน หากประชาชนชาวมาเลเซียไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานการป้องกันและควบคุมโรคระบาด จะส่งผลให้มีจำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 พุ่งสูงถึงวันละเกือบ 8,000 รายภายในปลายเดือนพฤษภาคม หรือต้นเดือนมิถุนายนนี้
ทั้งนี้ มาเลเซียเผชิญปัญหาการฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ที่ล่าช้าจากเป้าหมาย พบว่า มีจำนวนประชากรน้อยกว่า 3% ที่ได้รับการฉีดวัคซีน
