ยอดประชาชนบราซิลไม่รับวัคซีนโควิดเพิ่มเป็น 22 %

ดาต้าโฟลฮา สถาบันวิจัยชื่อดังในประเทศบราซิล ได้เปิดเผยผลสำรวจเกี่ยวกับความพร้อมในการรับวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ล่าสุด พบว่า 73% มีแผนที่จะรับการฉีดวัคซีน ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ลดลงจากเดิมที่ 89% ขณะที่ 5% ไม่รู้ว่าจะต้องรับการฉีดวัคซีน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 3% ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา นอกจากนี้ ประชาชนชาวบราซิลไม่มีความสนใจที่จะรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 เพิ่มขึ้น 22% ในสัปดาห์นี้ ที่สำคัญชาวบราซิลส่วนใหญ่ไม่ยอมรับวัคซีนที่ผลิตจากจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งผลิตโดยบริษัทไซโนแวค
.
สำหรับกระแสการไม่รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ในประเทศบราซิล ถูกจุดประเด็นขึ้นมาโดยประธานาธิบดีบราซิล นายฌาอีร์ โบลโซนารู เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา กล่าวว่าตัวเขาเองจะไม่รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 เพราะมีความสงสัยในการพัฒนาวัคซีนโดยเฉพาะอย่างยิ่งวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 จากบริษัท ไซโนแวค จากจีนแผ่นดินใหญ่ บริษัท ไซโนแวค จากจีนแผ่นดินใหญ่ ได้ร่วมพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 กับสถาบันบูแทนแทน ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจด้านการแพทย์ของรัฐบาลบราซิล
.
ดาต้าโฟลฮา เปิดเผยผลสำรวจเกี่ยวกับวัคซีนผลิตจากจีนแผ่นดินใหญ่ พบว่า ประชาชนชาวบราซิล 47% ที่ตอบคำถาม บอกว่าอาจรับวัคซีนจีน ขณะที่ 50% ไม่ต้องการรับวัคซีนจีน ซึ่งเป็นสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นจากการสำรวจก่อนหน้านี้ และอีก 3% ยังไม่ได้ตัดสินใจ นอกจากนี้ 33% ของประชาชนชาวบราซิล ซึ่งเชื่อในประธานาธิบดี นายฌาอีร์ โบลโซนารู เสมอ บอกว่าไม่สนใจที่จะรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 จากจีนแผ่นดินใหญ่ ขณะที่มี 16% ไม่เชื่อประธานาธิบดีบราซิล
.
หากย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2563 นายฌาอีร์ โบลโซนารู ประธานาธิบดีบราซิล ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคระบาดโควิด-19 หลังจากเข้ารับการตรวจเลือดถึง 4 ครั้ง
.
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีบราซิลเคยกล่าวว่า โรคโควิด-19 เป็นเพียงไข้หวัดทั่วไป และบอกด้วยว่าตัวเขาเองจะไม่ติดเชื้อไวรัสชนิดนี้ ต่อมาเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม นางมิเชล โบลโซนารู ซึ่งเป็นภรรยาของประธานาธิบดี นายฌาอีร์ โบลโซนารู ตรวจพบติดโรคโควิด-19 และในวันที่ 26 สิงหาคม นายฟลาวิโอ โบลโซนาโร ซึ่งเป็นวุฒิสมาชิก และเป็นลูกชายคนโตของประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนาโร ติดโรคโควิด-19
.
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข บราซิล เปิดเผยว่า วันนี้ 13 ธันวาคม 2563 จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในะรอบ 24 ชั่วโมงผ่านมา ทะยานเพิ่มขึ้นมากถึง 44,282 ส่งผลให้จำนวนติดเชื้อสะสมเป็น 6,880,595 ราย ทำสถิติติดมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ในภูมิภาคละตินอเมริกา และเป็นอันดับ 3 ของโลก ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตใน 1 วันผ่านมา เพิ่มขึ้น 690 ราย ทำให้จำนวนเสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 181,143 ราย เป็นอันดับ 1 ในละตินอเมริกา และอยู่ในอันดับ 2 ของโลก