ยังห่างไกล! ธนาคารเอชเอสบีซีชี้เอเชียห่างใกล้จุดสิ้นสุดโรคโควิด มองปีนี้โต 6.6% ปีหน้าหดเหลือกว่า 4%

ธนาคารเอชเอสบีซี ซึ่งเป็นธนาคารชั้นนำระดับโลก เปิดเผยว่าทวีปเอเชียจะต้องเผชิญกับความลำบาก และยังห่างไกลจากวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 ในเอเชียจะถึงจุดสิ้นสุด อย่างไรก็ตาม แนวโน้มของการกระจายวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ในเอเชียที่เริ่มมีเพิ่มขึ้นในอีกหลายเดือนข้างหน้านี้ จะช่วยผ่อนคลายสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19

ธนาคารดังกล่าวมองว่า ช่วงก่อนหน้านี้ที่อินเดียเผชิญกับวิกฤตการระบาดของโรคโควิด-19 รอบที่ 2 ที่มีความรุนแรงอย่างมาก ทำให้ยอดติดเชื้อรายวันพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ที่กว่า 410,000 คน และหลังจากนั้นการระบาดเริ่มลดลงมาด้วยยอดติดเชื้อรายวันเฉลี่ยกว่า 50,000 คน ในปัจจุบัน ประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย เนปาล ต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของเชื้อที่พุ่งทะยานอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และจีนแผ่นดินใหญ่ กำลังกลับมาเห็นการระบาดเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป

ด้านยูเรเซียกรุ๊ป มองว่า ประเทศที่มีกลุ่มประชากรในวัยหนุ่มสาว และมีสภาวะอากาศชื้นสูง อาจจะต้องพบการการระบาดของโรคโควิด-19 ที่รุนแรงมากกว่าการระบาดในรอบก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ประเทศหลายแห่งในกลุ่มประเทศเกิดใหม่อาจต้องพบกับความเสี่ยงของการล่มสลายในระบบสาธารณสุข สิ่งสำคัญเกี่ยวกับอัตราการฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ในทวีปเอเชีย พบว่ายังห่างจากทวีปอเมริกา โดยเฉพาะอเมริกาเหนือ และยุโรป ถึงวันนี้ เอเชียมีสัดส่วนการฉีดวัคซีนอย่างน้อย 1 โดสในประชากรเพียง 23% ซึ่งห่างจากอเมริกาเหนือและยุโรปที่มีสัดส่วนมากถึง 40%

นายเฟรดเดอริก นิวแมน หัวหน้าร่วมงานวิจัยเศรษฐกิจเอเชีย ธนาคารเอชเอสบีซี ประเมินว่า ทวีปเอเชียจะยังไม่สามารถฉีดวัคซีนให้เกิดภาวะภูมิคุ้มกันหมู่จนกระทั่งถึงปี 2022 เป็นอย่างเร็วที่สุด นั่นหมายถึง ประเทศจำนวนมากในเอเชียยังคงต้องใช้มาตรการป้องกันและควบคุมโรคระบาดต่อไป ส่งผลให้เกิดการสะดุดหยุดลงของระบบเศรษฐกิจที่ขาดความต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ธนาคารเอชเอสบีซี คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจเอเชียไม่นับรวมออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ จะขยายตัวที่ 6.6% ในปีนี้ ซึ่งฟื้นตัวขึ้นจากเมื่อปีที่แล้วที่ตกต่ำอย่างมากถึง -0.9% ขณะที่ในปี 2565 เศรษฐกิจเอเชียจะขยายตัวอยู่ที่ 4.4% ซึ่งลดลงจากตัวเลขคาดการณ์ของปีนี้