รมว.คลังสุดมั่นเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวช่วง มิ.ย.-ก.ค.นี้

นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังการพบนักวิเคราะห์และนักลงทุนสถาบัน ว่าสิ่งที่นักวิเคราะห์นักลงทุนสถาบันกังวลมากที่สุด คือ การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่กระทบกับภาคการท่องเที่ยว ปัญหาภัยแล้ง ซึ่งรัฐบาลยืนยันว่า รัฐบาลมีแผนที่จะออกมาตรการชุดใหญ่ เพื่อกระตุ้นการอุปโภคบริโภคในประเทศออกมา และมองว่า เศรษฐกิจไทยจะเริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวได้ในช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคมนี้
.
โดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำว่า จะต้องเร่งดูแลระยะสั้น เพื่อบรรเทาผลกระทบให้เศรษฐกิจไทยเดินหน้าไปได้ ขณะที่ระยะยาว ยืนยันว่าจะเดินหน้าแผนยุทธศาสตร์ และการปฏิรูปประเทศอย่างแน่นอน
.
ด้านแนวทางการบริหารงบประมาณปี 2563 ได้มอบหมายให้สำนักงบประมาณ และกรมบัญชีกลางเตรียมพร้อมการเบิกจ่าย หลังพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 มีผลบังคับใช้ ซึ่งงบประมาณปี 2563 ทั้งหมดอยู่ที่ 3.2 ล้านล้านบาท โดยเป็นงบลงทุน 6.4 แสนล้านบาท ซึ่งหากงบประมาณมีผลบังคับใช้ จะสามารถอัดเม็ดเงินลงทุนสู่ระบบมากกว่า 400,000 ล้านบาทในไตรมาส 2 นี้
.
โดยวงเงินดังกล่าวจะเป็นโครงการที่เตรียมพร้อมแล้ว 350,000 ล้านบาท และที่ทำ TOR อีก 96,000 ล้านบาท สำหรับงบลงทุนอีก 240,000 ล้านบาท อยู่ระหว่างการทำ TOR ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาในการดำเนินการ 45-50 วัน และคาดว่าจะมีเม็ดเงินลงสู่ระบบได้ในช่วงไตรมาส 2-3 นี้ โดยยืนยันว่ารัฐบาลจะเร่งขับเคลื่อนการลงทุนให้ได้มากที่สุด
.
ทั้งนี้ สำนักงบประมาณ เชื่อว่า งบประมาณปี 2563 จะสามารถเบิกจ่ายได้มากกว่า 80% ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ แม้จะมีเวลาการเบิกจ่ายที่จำกัดเพียง 6 เดือนเท่านั้น ส่วนไตรมาส 3 คาดว่าจะเบิกจ่ายได้ 77% ของงบประมาณทั้งหมด
.
ด้านการลงทุนรัฐวิสาหกิจ ทั้งปีที่ 350,000 ล้านบาท ภายในเดือนมีนาคมนี้ คาดว่าจะมีเม็ดเงินในการลงทุนประมาณ 100,000 ล้านบาท และทั้งปีจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้คือมากกว่า 80%
.
แต่แนวโน้มเศรษฐกิจในระยะต่อไป เป็นสิ่งที่คาดการณ์ได้ยาก โดยยังต้องติดตามเศรษฐกิจโลกที่ยังมีความไม่แน่นอน การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่คาดหวังว่าจะคลี่คลายได้ในอนาคต และส่งผลให้เศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัวได้ในช่วงมิถุนายน-กรกฎาคมนี้