ราคาข้าวสาลีดีดกว่า 6% วัตถุดิบ-อาหารพุ่งรับรัสเซียเลิกข้อตกลงส่งออกธัญพืชจากยูเครน
ตลาดซื้อขายสัญญาข้าวสาลี ชิคาโก สห.รัฐอเมริกา รายงานว่า มีราคาพุ่งสูงขึ้นกว่า 6% มาเคลื่อนไหวที่ระดับ 8.77 ดอลลาร์สหรัฐต่อบุชเชล ซึ่งลดลงเล็กน้อยจากระดับราคาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 8.93 ดอลลาร์สหรัฐต่อบุชเชล ทำสถิติราคาสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ หรือนับตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคมที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้ในเดือนมีนาคม 2565 ราคาสัญญาข้าวสาลีล่วงหน้าพุ่งกระฉูดขึ้นแตะที่ 13.64 ดอลลาร์สหรัฐต่อบุชเชล ทำสถิติแพงที่สุดเป็นประวัติการณ์ สาเหตุจากรัสเซียเปิดฉากทำสงครามกับยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ปีนี้
สอดคล้องกับราคาสัญญาข้าวโดดเพิ่มขึ้นกว่า 2% มาอยู่ที่ระดับ 6.98 ดอลลาร์สหรัฐต่อบุชเชล และถั่วเหลืองมีราคาพุ่งขึ้นแตะระดับ 14.09 ดอลลาร์สหรัฐต่อบุชเชล
สาเหตุจากตลาดซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลกเตรียมเผชิญความผันผวนด้านราคาสินค้าธัญพืชสำคัญของโลกที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้เป็นต้นไป เริ่มจากสัญญาซื้อขายล่วงหน้าข้าวสาลีถูกคาดการณ์ว่าจะมีราคาส่งมอบล่วงหน้าพุ่งทะยานอย่างก้าวกระโดดเมื่อเปิดการซื้อขายในวันจันทร์ นอกจากนี้ ราคาสัญญาซื้อขายล่วงหน้าข้าวโพดจะเกิดความผันผวนครั้งใหม่อย่างแน่นอน
รัฐบาลรัสเซียประกาศยกเลิกข้อตกลงในโครงการริเริ่มธัญพืชทะเลดำ หรือ Black Sea Grain Initiative ซึ่งเป็นข้อตกลงที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์การสหประชาชาติเมื่อเดือนกรกฎาคมเป็นต้นมา โดยการขอให้รัฐบาลรัสเซียเปิดเส้นทางเดินเรือทะเล และเปิดท่าเรือสำคัญ 3 แห่งในประเทศยูเครน เพื่อการส่งออกธัญพืชผ่านทะเลดำออกสู่ทั่วโลกได้
การประกาศของรัฐบาลรัสเซียดังกล่าวนั้น จะมีผลทันทีและเป็นไปอย่างไม่มีกำหนด กระทรวงกลาโหมของรัสเซีย เปิดเผยว่า มาตรการนี้เป็นการตอบโต้ การก่อการร้ายของยูเครนที่มีต่อเรือรบรัสเซีย แถมอังกฤษยังมีส่วนด้วย ด้านรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม ยูเครน เปิดเผยว่า ขณะนี้มีเรือจำนวน 218 ลำ ไม่สามารถขนถ่ายสินค้าออกจากท่าเรือทั้ง 3 แห่งในยูเครนออกไปสู่ตลาดโลกได้
เมื่อเดือนกรกฎาคมเป็นต้นมา ซึ่งมาตรการดังกล่าวมีผลบังคับใช้นั้น ทำให้มีปริมาณธัญพืชที่เป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตอาหาร และสินค้าโภคภัณฑ์เมล็ดน้ำมันสามารถส่งออกได้ถึง 9 ล้านตันจากท่าเรือขนาดใหญ่ทั้ง 3 แห่งจากยูเครน
ทั้งนี้ ประเทศยูเครนและรัสเซียคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 1 ใน 4 ของการส่งออกธัญพืชทั่วโลก จนกระทั่งการขนส่งเหล่านั้นต้องหยุดชะงักลงอย่างรุนแรงเป็นเวลาเกือบ 6 เดือน เนื่องจากสงคราม โดยยูเครนเป็นผู้ผลิตและส่งออกน้ำมันดอกทานตะวัน และเมล็ดพืชอันดับต้น ๆ ของโลก และเป็นผู้ผลิตข้าวสาลีรายใหญ่อันดับ 7 ของโลก
