ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกปิดขึ้น 2 วันติดเกือบ 2 ดอลลาร์ พลิกปิดขึ้นเหนือกว่า 79 ดอลลาร์

ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2023 ตามเวลาสหรัฐอเมริกา พบว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 76.78 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +2.02 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +2.7% ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ปิดเพิ่มขึ้น 2 วันติดต่อกันรวม 2.48 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 79.54 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +1.17 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +1.5% ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ ปิดเพิ่มขึ้น 2 วันติดต่อกันรวม 1.85 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ในปี 2022 ผ่านไปราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกรายสัปดาห์ทั้ง 2 แห่ง กลับปิดลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน ในสัปดาห์นี้ ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ลดลง -1% และราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ลดลง -3% ในสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ราคาร่วงลง -3% และ -6% ตามลำดับ

สิ้นสุดเดือนเมษายน 2023 พบว่า ราคาน้ำมันดิบรายเดือนทั้ง 2 แห่ง ปิดสวนทางกัน โดยราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์เพิ่มขึ้นเพียง 1% แต่ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ลดลงไม่ถึง 1% ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดตกต่ำเป็นเดือนที่ 4 ต่อเนื่อง สวนทางราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์รายเดือนที่ปิดเพิ่มขึ้นเดือนแรกใน 6 เดือนผ่านมา

สาเหตุจากปริมาณสำรองน้ำมันดิบ และน้ำมันสำเร็จรูปรายสัปดาห์ในสหรัฐอเมริกาตกต่ำมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ขณะที่บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริการายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ยังคงขยายตัวต่อเนื่องตามคาดการณ์แม้จะลดลงเพียงเล็กน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2022 ก็ตาม นอกจากนี้ เมื่อวานนี้รองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย กล่าวว่า กลุ่มโอเปกพลัสมองไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องลดกำลังการผลิตลงอีก ทำให้นักลงทุนหวนกลับเข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบครั้งใหม่