ละเหี่ยใจ! โควิด-19 กระทบเด็กนักเรียนภูเก็ต 10% ออกกลางคัน สอบติดโรงเรียนรัฐ ถูกตัดชื่อออกเหตุไม่มีเงินจ่ายค่าเทอม

692
0
Share:

นางอัญชลี วานิช เทพบุตร นายกสมาคมสตรีสร้างสรรค์สังคมไทย โครงการจัดการศึกษาเชิงพื้นที่เพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา จังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า สถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 รอบที่ 3 ส่งผลกระทบหนักหนาสาหัสกว่าคลื่นสึนามิมาก โดยเฉพาะผลกระทบต่อเนื่องมาถึงครัวเรือนและเด็กเยาวชน ภูเก็ตเคยเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับต้นของโลก ปี 2562 ก่อนเกิดวิกฤติโรคระบาดโควิด-19 ภูเก็ตทำรายได้ในภาพรวมกว่า 440,000 ล้านบาท มีรายได้เฉลี่ยประชากรต่อหัวต่อเดือนอยู่ที่ 33,000 บาท

แต่เมื่อเกิดวิกฤติโรคระบาดโควิด-19 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เปิดเผยว่ารายได้ต่อคนต่อเดือนของประชากรภูเก็ตเหลือเพียง 1,961 บาท ต่ำกว่าเกณณ์คนจนทั่วประเทศไทยของจปฐ. ซึ่งอยู่ที่ 3,000 บาท นอกจากนี้ ภาวะที่เกิดขึ้นหนักหนาสาหัส คือภาวะจนเฉียบพลัน พ่อแม่ ผู้ปกครอง ต้องตกงานตั้งแต่เดือนเมษายนปีที่แล้วถึง 13-15%

ขณะที่ประชากรแฝงมีกว่า 400,000 คนในภูเก็ต พอเกิดสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ทำใ้ห้ต้องตกงาน ต้องเดินทางกลับภูมิลำเนากว่า 50,000 คน ส่งผลตัวเลขกลับด้านอย่างมีนัยยะสำคัญ คือคนที่เคยเรียนการศึกษาผู้ใหญ่ เคยทำงานในโรงแรมส่งตัวเองเรียน หรือฝึกอาชีพเพิ่มเติม เมื่อถูกพักงานจากเจ้าของกิจการ อัตราคนเรียนต่อกศน.น้อยลง จากเดิมปี 2562 สมัคร 1,800 คน วันนี้ เหลือเพียง 170 คน

นอกจากนี้ ยังพบว่าเด็กหายไปจากระบบเมื่อวันเปิดเทอมในสัปดาห์ที่ผ่านไป 10% และยังมีกลุ่มที่มีโอกาสหลุดจากระบบในช่วงสิ้นภาคเรียนที่ 1 อีก ซึ่งยังต้องประเมินสถานการณ์อีกครั้ง

“หลายกรณีพ่อแม่จนเฉียบพลัน เคยเป็นพนักงานโรงแรม แต่รายได้เป็นศูนย์ ไม่มีเงินจ่ายค่าเทอม เด็กหลายคนสอบติดโรงเรียนรัฐ ต้องวางเงิน 3,000 – 4,500 บาท เมื่อไม่มีเงินมาจ่าย ต้องถูกลบชื่อออกให้เด็กคนอื่นๆเรียน หรือเด็กบางคนเคยเรียนโรงเรียนเอกชน หรือโรงเรียนนานาชาติ แต่วันนี้ต้องลาออก เพื่อมาเรียนโรงเรียนวัด หรือโรงเรียนรัฐ

นายกสมาคมสตรีสร้างสรรค์สังคมไทย โครงการจัดการศึกษาเชิงพื้นที่เพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา จังหวัดภูเก็ต กล่าวต่อไปว่า ยิ่งไปกว่านั้น บางกรณียังค้างค่าเรียน ออกก็ไม่ได้ เพราะไม่ได้วุฒิการศึกษา แม้ว่าจะขอทำสัญญาประนอมหนี้ ขอวุฒิการศึกษาเด็กก่อน ก็ยังไม่ได้ บางโรงเรียนไม่ให้เด็กเข้าห้องสอบ เพราะไม่ได้จ่ายค่าเทอม วิกฤติแบบนี้แล้วเราจะทิ้งเด็กได้อย่างไร ต้องให้เด็กเข้าเรียนก่อน ที่ภูเก็ต ถ้าเปรียบเทียบสภาพคน วันนี้เป็นตายเท่ากัน เราต้องช่วยเคสระยะสั้น เฉพาะหน้าก่อน ช่วยเด็กที่กำลังจะจมน้ำให้ได้ ต้องมาช่วยเป็นการด่วน ไม่ใช่หลุดจากระบบแล้วเอื้อมมือช่วย