ลาวปรับคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ปลดผู้ว่าแบงก์ชาติ เซ่นเงินเฟ้อพุ่ง 15 ปี

521
0
Share:
ลาว

สำนักข่าวลาวพัฒนา (Laophattana News) รายงานว่า สภาแห่งชาติ สปป.ลาว มีมติและรับรองคำสั่งการปรับคณะรัฐมนตรีตามคำเสนอของท่านพันคำ วิพาวัน นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว มีดังนี้ แต่งตั้ง พล.อ.วิไล หล้าคำฟอง เป็นรองนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีกระทรวงป้องกันความสงบ และท่านสะเหลิมไซ กมมะสิด เป็นรองนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีต่างประเทศ พร้อมทั้งแต่งตั้งท่านเวียงทะวิสอน เทบพะจัน รองเจ้าแขวงสะหวันนะเขต ขึ้นเป็นประธานองค์การตรวจสอบแห่งรัฐ

นอกจากนี้ มีมติย้ายท่านสมแพง ไซสมแพง จากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า ไปเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และโยกย้ายท่านสอนไซ สิดพะไซ จากผู้ว่าการธนาคารแห่งสปป.ลาว ไปเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีสปป.ลาว ยังได้มีมติแต่งตั้งท่านมะไลทอง กมมะสิด เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า และ ท่านบุนเหลือ สินไซวอละวง เป็น ผู้ว่าการธนาคารแห่ง สปป.ลาว คนใหม่

สาเหตุที่คณะรัฐมนตรีสปป.ลาวมีมติปรับคณะรัฐมนตรีสายเศรษฐกิจ และผู้ว่าการธนาคารกลางสปป.ลาว เป็นผลจากเศรษฐกิจของสปป.ลาวเผชิญปัญหาอย่างรุนแรงต่อเนื่อง โดยเฉพาะต้องประสบภาวะเงินเฟ้อขั้นรุนแรง และปัญหาสกุลเงินกีบเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงอย่างรุนแรงและต่อเนื่อง รวมถึงเกิดปัญหาการขาดแคลนน้ำมันทั่วประเทศ และหนี้สาธารณะสะสมมีจำนวนพุ่งสูงขึ้นโดยเฉพาะมูลค่าหนี้ส่วนมากเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับอัตราเงินเฟ้อเดือนพฤษภาคม 2565 ของสปป.ลาว พบว่า พุ่งแตะระดับ 12.8% สูงสุดในรอบ 15 ปี และติดอันดับประเทศที่มีอัตราเงินเฟ้อสูงเป็นอันดับ 6 ของโลก ขณะที่เงินกีบอ่อนค่าลงอย่างมาก โดยตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 2564 เงินกีบเคยอยู่ที่ประมาณ 9,400 กีบต่อ 1 ดอลลาร์ แต่ปัจจุบัน ณ 12 มิถุนายน 2565 เงินกีบอ่อนค่าลงไปที่ 14,400 กีบต่อ 1 ดอลลาร์หรืออ่อนค่าลงกว่า 50%

หากเทียบกับเงินบาท ณ วันที่ 9 มิ.ย. 65 อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 415 กีบ ต่อ 1 บาท หลังจากที่เคยอ่อนค่าหนักสุดเกือบถึง 500 กีบต่อ 1 บาทในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา และอ่อนค่าลงเกือบ ๆ  50% จากระดับเมื่อเดือนเม.ย.ซึ่งอัตราแลกเปลี่ยนเงินกีบอยู่ที่ 350 กีบต่อ 1 บาท

ปัจจัยที่ทำให้สกุลเงินกีบอ่อนค่า หลักๆ มาจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ หลังธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อควบคุมเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้น ล่าสุดเดือนพฤษภาคม 2565 เงินเฟ้อสหรัฐพุ่งแตะ 8.6% สูงสุดในรอบเกือบ 41 ปี

สปป.ลาวยังมีหนี้สาธารณะถึง 13,347 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 71% ของจีดีพี โดยเป็นหนี้ต่างประเทศกว่า 12,435 ล้านดอลลาร์ และหนี้ในประเทศอีกกว่า 912 ล้านดอลลาร์ ดังนั้น เมื่อดอกเบี้ยขยับอัตราสูงขึ้นประกอบกับเงินกีบอ่อนค่าลง ทำให้ สปป.ลาว มีภาระหนี้พุ่งสูงขึ้น

ทั้งนี้ ทุนสำรองระหว่างประเทศเพียง 1,262 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นตัวเลขที่ต่ำจนน่ากังวล เนื่องจากสามารถรองรับการนำเข้าสินค้าได้เพียง 2.9 เดือนเท่านั้น ต่ำกว่าเกณฑ์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่กำหนดให้ประเทศรายได้ต่ำ ควรมีอัตราทุนสำรองระหว่างประเทศครอบคลุมการนำเข้าได้ 4-6 เดือน และยังมีหนี้ที่กำหนดชำระหนี้ราว 1,300 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าทุนสำรองระหว่างประเทศทั้งหมด