ลุ้นขึ้นราคา! ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกพุ่งกว่า 4 ดอลล์ใน 3 วันติด ยืนเหนือ 85 ดอลลาร์

ตลาดซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้า นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา รายงานว่า เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2565 หรือคืนผ่านมาตามเวลาสหรัฐอเมริกา พบว่า ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 80.55 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +2.35 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +3.1% ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นถึง 3 วันติดต่อกันถึง 4.27 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล หรือเพิ่มขึ้น 5.41% ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน

ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 85.43 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +2.40 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +2.80% ก่อนหน้านี้ ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

สาเหตุจากการประชุมกลุ่มโอเปกพลัสที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 4 ธันวาคมนี้ มีการคาดการณ์ว่ายังคงยึดมติเดิมของกลุ่มโอเปกพลัส ปริมาณสำรองน้ำมันดิบรายสัปดาห์ในสหรัฐอเมริกาถึงเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน พบว่าลดลงมากถึง 13 ล้านบาร์เรล ทำสถิติมากที่สุดในรอบเกือบ 2 ปี หรือตั้งแต่กลางปี 2019

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับอ่อนค่าลง และมุมมองในทางบวกว่าเศรษฐกิจจีนพอจะมีสัญญาณการฟื้นตัวอยู่บ้าง ขณะที่กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมยักษ์ใหญ่ของโลกทั้ง 7 ประเทศ หรือกลุ่มจี 7 เปิดเผยว่า กำลังมองหาช่วงราคาที่เหมาะสมในการประกาศใช้มาตรการเพดานราคาน้ำมันดิบที่ขนส่งทางทะเลจากประเทศรัสเซีย ซึ่งอยู่ระหว่าง 65-70 ดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามาตรการดังกล่าวจะกระทบต่อปริมาณน้ำมันดิบในตลาดโลกมากน้อยแค่ไหน