วายแอลจี ชี้คนไทยสนใจออมทองคำมากขึ้น พอร์ตรายย่อยโต 67 % จากปีก่อน

271
0
Share:
วายแอลจี ชี้คนไทยสนใจ ออม ทองคำ มากขึ้น พอร์ตรายย่อยโต 67 % จากปีก่อน

นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) ผู้นำเข้าและส่งออกทองคำแท่งรายใหญ่ของไทย เปิดเผยว่าในปีนี้คนไทยหันมาสนใจการสะสมทองคำมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้ารายย่อย ที่เติบโตขึ้น 67% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นการเติบโตทั้งจากลูกค้าบริการออมทอง ผ่าน บริการออมทอง “YLG GOLD SAVING” และบริการเทรดทองคำ 99.99% กับ YLG ผ่านฟีเจอร์ Gold Wallet บนแอปพลิเคชันเป๋าตัง 2 บริการนี้ถือเป็นบริการที่เข้าถึงคนไทยทั่วทั้งประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหมที่ต้องการเข้ามาลงทุนในทองคำแต่ก่อนนี้ไม่มีโอกาสเนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูง ดังนั้นวายแอลจีจึงได้เน้นไปที่บริการในรูปแบบออนไลน์ และปรับรูปแบบการซื้อขั้นต่ำด้วยเงินลงทุนไม่มากเพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงทองคำให้กับนักลงทุนทุก Generation สามารถรองรับการซื้อขายทองคำได้ในทุกที่ ทุกเวลา ผ่านสมาร์ตโฟน

สำหรับบริการออมทอง YLG GOLD SAVING เป็นบริการที่กำหนดเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 100 บาท ในรูปแบบการออมสะสม เป็นบริการได้รับการตอบรับดีเกินคาด เนื่องจากเปิดบริการทุกวัน ไม่เว้นวันเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งปกติวันเสาร์-อาทิตย์จะไม่มีการอัปเดตความเคลื่อนไหวของราคาทอง แต่ YLG เล็งเห็นความสำคัญตรงจุดนี้ เพื่อตอบโจทย์ให้นักลงทุนสามารถออมทองในวันหยุดได้ จุดเด่นคือผู้ออมสามารถกำหนดราคาการเข้าซื้อทองได้เองจากการดูราคาเคลื่อนไหวแบบเรียลไทม์ สามารถเข้าซื้อทองคำในรูปแบบการออมทองได้ในราคาที่ต้องการตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยขั้นตอนง่ายๆผ่านสมาร์ตโฟนหรือดีไวซ์ต่างๆ โดยผู้ออมที่สะสมทองคำไปจนครบจำนวน 1 กรัมขึ้นไป สามารถเลือกได้ว่าจะไถ่ถอนนำทองคำกลับไป หรือถอนเป็นเงินสด หรือ จะออมต่อเนื่อง ซึ่งขั้นตอนการสมัครง่ายๆ เพียงเปิดบัญชีออมทองที่ www.ylggoldsaving.com ใช้เอกสารเปิดบัญชีเพียง 3 อย่าง ประกอบด้วย บัตรประจำตัวประชาชน รูปถ่ายคู่กับบัตรประชาชน และหน้าสมุดบัญชีเงินฝาก

ส่วนบริการซื้อ – ขายทองคำผ่านกับ “YLG ผ่าน Gold Wallet” บนแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” วายแอลจี จึงได้ร่วมกับ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB เพื่อเพิ่มช่องทางบริการให้เข้าถึงคนไทยได้มากขึ้น เป็นบริการการซื้อขายทองคำประเภท 99.99% ซึ่งเป็นทองคำมาตรฐานโลก ด้วยสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ที่ช่วยให้ผู้ซื้อปิดความเสี่ยงในเรื่องความผันผวนของค่าเงินบาท โดยเฉพาะในปี 2565 ที่ค่าเงินบาทมีช่วงที่อ่อนค่าลงไปอย่างมาก จึงส่งผลให้ทองคำซึ่งเป็นสินค้านำเข้ามีราคาสูงขึ้น

ทั้งนี้มองว่าปัจจัยที่ทำให้ 2 บริการได้รับการตอบรับที่ดีจากคนไทย มาจาก 3 ด้าน คือ 1. เป็นบริการที่ใช้เงินลงทุนขั้นต่ำน้อย 2. เข้าถึงง่ายจากทุกพื้นที่ของไทยด้วยเทคโนโลยี และยังสามารถซื้อ – ขาย แบบเรียลไทม์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง 3. วายแอลจีเปิดให้บริการในจังหวะที่นักลงทุนกำลังต้องการทางเลือกในการลงทุน เพราะปีนี้สินทรัพย์เสี่ยงหลายประเภทปรับตัวลดลง แต่ราคาทองคำยังทรงตัวได้ดีถึงแม้ว่าปีนี้จะเป็นปีที่อยู่ในสถานการณ์ดอกเบี้ยขอขึ้นก็ตาม

ผู้ที่ต้องการเข้ามาลงทุนทองคำในช่วงนี้ ระยะสั้นมองแนวโน้มการเคลื่อนไหวในลักษณะปรับฐาน หลังจากที่ราคาทองคำปรับตัวขึ้นแรงในกช่วงต้นเดือนพ.ย. โดยมีแนวรับที่ 1,729-1,711 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนวต้านที่ 1,772-1,790 ดอลลาร์ต่อออนซ์. ส่วนทองคำในประเทศคาดจะเคลื่อนไหวในกรอบ 30,000-29,000 บาท