“วิษณุ เครืองาม”ชี้แจงพ.ร.ก.ฉุกเฉินโควิด19

1062
0
Share:

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อรับมือไวรัสโควิด-19 ในครั้งนี้ว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉินครั้งนี้จะอยู่ในช่วงระหว่างวันที่ 26 มีนาคม – 30 เมษายน และจะพิจารณาต่ออายุครั้งละ 3 เดือน และเป็นการประกาศใช้ทั่วราชอาณาจักรครั้งแรก โดยจะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่เที่ยงคืนวันนี้เป็นต้นไป ซึ่งที่ประกาศใช้ก่อนเวลาจริงก็เพื่อให้ประชาชนและเจ้าหน้าที่ราชการได้เตรียมตัวรับมือ
.
โดยเนื้อหาฉบับที่ 1 จะโอนอำนาจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงส่วนต่างๆ ตาม พรบ. จำนวน 40 ฉบับ มายังนายกรัฐมนตรี แต่รัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ นั้นยังต้องรับผิดชอบหน้าที่ตัวเองเหมือนเดิม
.
ฉบับที่ 2 นายกฯ จะแต่งตั้งให้รองนายกฯ ทุกคนเป็นผู้ช่วยในการบริหารจัดการทั่วประเทศ และเนื่องจาก พ.ร.ก.ครั้งนี้ มีการประกาศใช้ทั่วราชอาณาจักร จึงให้อำนาจปลัดกระทรวงต่างๆ รับผิดชอบตามหน้าที่ ตามที่นายกฯ ได้ชี้แจงไปแล้ว ซึ่งจะหนักไปในทางปฏิบัติในแต่ละพื้นที่
.
ฉบับที่ 3 คือการให้ตั้งศูนย์บริหารสถานการณ์ไวรัสโคโรน่า (โควิด-19) หรือ ศอฉ.โควิด-19
.
ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินให้นายกฯ ออกข้อกำหนดต่างๆ ได้ ซึ่งอาจกระทบต่อการดำรงชีวิต และจะต้องลงในราชกิจจานุเบกษา โดยข้อกำหนดดังกล่าว จะกำหนดพฤติกรรมไว้เป็น 3 ประเภท คือ ห้ามทำ – ให้ทำ – ควรทำ เช่นห้ามเข้าพื้นที่เขตกำหนด
.
หลังจากมีประกาศ พ.ร.กฉุกเฉินออกไปแล้ว ผู้ว่าราชการทุกจังหวัด ต้องสั่งปิดเมืองเหมือนกันทั้งหมด แต่ไม่จำเป็นต้องปิดพื้นที่ให้เหมือนกันก็ได้ ให้พิจารณาตามความเหมาะสม ซึ่งปัจจุบันมีการปิดพื้นที่แล้วกว่า 2 หมื่นแห่ง
.
ห้ามยานพาหนะทุกชนิด ทุกช่องทาง ทุกประเภทเข้าประเทศ และบุคคลที่จะเดินทางเข้าต้องมีสัญชาติไทยเท่านั้น แต่ก็มีข้อยกเว้นในบางบุคคล โดยระบุว่า
.
1. ต้องมีสัญชาติไทย และต้องมีเอกสารสำคัญใบรับรองทางการแพทย์ว่า มีสภาพที่สามารถบินได้ Fit to Fly Health Certificate หากไม่มีใบรับรองดังกล่าว ให้ทำการติดต่อสถานทูต โดยแต่ละสถานทูตในต่างประเทศ ได้ระดมแพทย์ไปประจำภายใน เพื่อทำการตรวจเช็คให้ประชาชน
.
2. กรณีที่เป็นบุคคลในคณะทูต ซึ่งเป็นทูตต่างประเทศที่อยู่ในประเทศไทย และได้บินกลับไปยังประเทศของตน แต่มีความจำเป็นต้องบินกลับประเทศไทย ก็ให้สามารถกลับเข้ามาได้ โดยต้องแจ้งกระทรวงการต่างประเทศของไทย แล้วต้องมีใบรับรอง Fit to Fly Health Certificate จึงสามารถกลับเข้ามาได้
.
3. ให้ผู้ขนส่งสินค้าเข้ามาได้ แต่ต้องดำเนินการกลับออกไปโดยเร็ว
.
4. กรณีของผู้ที่มากับยานพาหนะ เช่น คนขับรถ นักบิน สจ๊วต แอร์ จะยอมให้เข้ามา แต่ต้องให้กลับออกไปโดยเร็ว
.
ห้ามทำการชุมนุม เพราะการชุมนุมคนหมู่มาก เป็นสาเหตุที่ง่ายที่สุดในการแพร่เชื้อ
.
ห้ามแชร์ข่าวเท็จ ข่าวลวงเกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 เพื่อระมัดระวังการเผยแพร่ข่าวที่บิดเบือน
.
ดังนั้นประชาชนควรที่จะอยู่บ้าน แม้จะยังไม่มีคำสั่งห้ามออกจากบ้าน แต่ก็ขอความร่วมมือบุคคล 3 ประเภทที่มีความเสี่ยงมาก และแพทย์ระบุว่าควรอยู่บ้าน ได้แก่ 1) ผู้สูงอายุ ที่มีอายุมากกว่า 70 ปี // 2) บุคคลอายุเท่าใดก็ตาม แต่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดัน โรคปอด 3) เด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ ซึ่งเป็นกลุ่มบุคคลที่มีความเสี่ยงต่อการติดโรคสูงมาก จึงขอให้อยู่กับบ้าน เว้นแต่ต้องออกมาทำกิจกรรมที่จำเป็น
.
การสัญจรไปมาระหว่างกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด จะมีมาตรการเข้าไปเกี่ยวข้องที่เข้มงวด ทำให้เดินทางได้ยากลำบากมากขึ้น เว้นแต่มีความจำเป็นจริงๆ โดยฝ่ายความมั่นคงจะจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ตั้งจุดสกัด หรือด่าน ตามรอยต่อระหว่างจังหวัด และดูว่ายานพาหนะ มีการเว้นระยะนั่ง หรือยืนอย่างน้อย 1 เมตรหรือไม่ // สวมหน้ากากอนามัย หรือใช้เจลแอลกอฮอล์ทำความสะอาดหรือไม่ // มีการตรวจวัดอุณหภูมิเป็นระยะ และต้องมีมือถือที่สามารถติดตั้งแอปพลิเคชั่นในการติดตามตัวได้
.
ตอนนี้ แม้ไทยจะยังไม่ปิดประเทศ ไม่ปิดสนามบิน แต่งดให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาแล้ว หากคนไทยที่อาศัยอยู่ต่างประเทศต้องการจะเดินทางเข้ามา ต้องมีเอกสารที่ได้รับการรับรองทางการแพทย์
.
พื้นที่เปิดให้บริการ ได้แก่โรงพยาบาล // คลีนิค // สถาบันการเงิน // บริษัทหลักทรัพย์ // ธุรกิจเดลิเวอร์รี่-ออนไลน์ // เอทีเอ็ม // ร้านอาหาร // ห้างสรรพสินค้า เฉพาะแผนกอาหาร ยา และสินค้าที่จำเป็น ยังเปิดให้บริการได้ปกติ // การขนส่งสินค้าตามพื้นที่ยังทำได้ // สามารถซื้ออาหารได้ตามปกติ – แต่ห้ามกักตุน รวมถึงธุรกิจสื่อสาร โทรคมนาคมสามารถดำเนินการต่อได้ เพื่อให้ประชาชนได้รับข่าวสารที่ถูกต้อง
.
สุดท้ายแม้จะยังไม่ได้ประกาศเคอร์ฟิว และประชาชนยังสามารถออกจากบ้านได้ แต่บุคคล 3 ประเภทที่แพทย์ระบุ ไม่แนะนำให้ออกเว้นแต่ต้องออกเพื่อทำธุรกรรมบางอย่างที่จำเป็น
.