วุฒิสภา รับหลักการร่างพ.ร.บ.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ฉบับปลอดดอกเบี้ย

226
0
Share:
วุฒิสภา รับหลักการร่างพ.ร.บ. กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ฉบับ ปลอดดอกเบี้ย

รายงานข่าวจากรัฐสภา เปิดเผยว่า ในการประชุมวุฒิสภา (ส.ว.) ที่มี พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม ได้พิจารณาพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) วาระแรก ตามที่สภาผู้แทนราษฎร พิจารณาเห็นชอบให้มีการปรับแก้เนื้อหาจากร่างที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เสนอมา โดยไม่ให้คิดดอกเบี้ยกู้ยืม ไม่มีเบี้ยปรับจ่ายล่าช้า และไม่มีผู้ค้ำประกันทุกกรณี

หลังจากที่ ส.ว.อภิปรายกันอย่างกว้างขวางนานกว่า 3 ชั่วโมง ในเวลา 14.05 น.ที่ประชุมจึงลงมติรับหลักการด้วยคะแนน 179 ต่อ 4 งดออกเสียง 4 และตั้ง กมธ.วิสามัญฯ จำนวน 27 คน ขึ้นมาพิจารณาในวาระ 2 ต่อไเพื่อพิจารณาให้แล้วเสร็จในกรอบเวลา ซึ่งร่างพ.ร.บ.กยศ. ถือเป็นร่างกฎหมายเกี่ยวกับการเงิน วุฒิสภาต้องพิจารณาให้เสร็จภายใน 30 วัน หรือถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน

อย่างไรก็ดีในการอภิปรายของส.ว. แสดงความเห็นคัดค้านต่อเนื้อหาที่สภาฯ แก้ไขเปลี่ยนแปลงจากเนื้อหาที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เสนอ คือ ไม่เก็บดอกเบี้ย และ ไม่เก็บค่าปรับผิดนัดชำระหนี้ เนื่องจากกังวลว่าจะทำให้ผู้กู้ยืมเงินไม่มีวินัย เป็นภาระทางงบประมาณของรัฐบาลในอนาคต ทั้งนี้มีข้อเสนอของส.ว. ให้อำนาจกับกรรมการกองทุน กยศ. เพื่อให้พิจารณาอย่างยืดหยุ่นภายใต้ภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน เช่น ให้มีระยะการปลอดดอกเบี้ย หากประเทศประสบกับปัญหาทางเศรษฐกิจ คนตกงาน คนไม่มีรายได้ไม่เพียงพอ เป็นต้น

ทั้งนี้นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุน กยศ. ชี้แจงต่อที่ประชุมวุฒิสภาด้วยว่า กรณีที่ไม่เก็บดอกเบี้ย จะทำให้กองทุนเสียรายได้ 1.6หมื่นล้านบาท ทั้งนี้หลังสภาฯ ผ่านวาระสามของร่างพ.ร.บ.กยศ. ทำให้มีผู้ชำระเงินกู้คืน ตกลงไป 26% หากสภาพการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นต่อไป ภายใน 3 ปี ต้องกลับไปใช้งบประมาณแผ่นดิน หรือกลับมาใช้ระบบโควต้าให้กู้ยืมเงิน ส่วนการฟ้องคดี กยศ.ไมมีนโยบายหากไม่จำเป็น และที่ผ่านมากองทุน กยศ. จะใช้วิธีไกล่เกลี่ยและประนีประนอมแทนการฟ้องคดี