ศก.จีนส่อดำดิ่งหนักในครึ่ง 100 ปี ตัวเลขแย่ยกแผงตั้งแต่ขายปลีก-ว่างงาน-รถยนต์-อสังหา

336
0
Share:
เศรษฐกิจ จีน ส่อดำดิ่งหนักในครึ่ง 100 ปี ตัวเลขแย่ยกแผงตั้งแต่ขายปลีก-ว่างงาน-รถยนต์-อสังหา

สำนักงานสถิติแห่งชาติ จีนแผ่นดินใหญ่ เปิดเผยรายงานตัวเลขเศรษฐกิจ พบว่า ยอดขายปลีกเดือนพฤศจิกายนตกต่ำลง -5.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีผ่านมา ซึ่งย่ำแย่กว่าที่ตลาดคาดว่าจะลดลง -4.0% ต่อมาตัวเลขภาคการผลิตอุตสาหกรรมเดือนพฤศจิกายนลดลงมาอยู่ที่ 2.2% เทียบกับเดือนตุลาคมผ่านมา ที่ระดับ 5% นอกจากนี้ ตัวเลขการลงทุนในสินทรัพย์คงที่เดือนพฤศจิกายนตกต่ำมาอยู่ที่ระดับ 5.3% ในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ผ่านมา ทั้ง 2 ตัวเลขดังกล่าวยังตกต่ำมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ด้วย

ด้านตลาดรถยนต์ในจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งเป็นตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก พบว่ายอดขายรถยนต์ภายในประเทศเดือนพฤศจิกายนตกต่ำมากถึง -4.2% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีผ่านมา ส่งผลทำสถิติยอดขายรถยนต์ที่ย่ำแย่ครั้งแรกในรอบ 6 เดือน หรือตั้งแต่พฤษภาคมปีนี้ สอดคล้องกับผลผลิตภาคอุตสาหกรรมรถยนต์เดือนพฤศจิกายนร่วงลงหนัก -9.9% เทียบช่วงเดียวกันกับปี 2021 ทำสถิติผลผลิตอุตสาหกรรมรถยนต์ที่ย่ำแย่ครั้งแรกในรอบ 6 เดือน หรือตั้งแต่พฤษภาคมปีนี้

ด้านตลาดอสังหาริมทรัพย์เดือนพฤศจิกายนในจีนแผ่นดินใหญ่เผชิญความย่ำแย่เช่นเดียวกัน พบว่าไม่เพียงมียอดขายอสังหาริมทรัพย์ใหม่ดำดิ่งมากถึง -31% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีผ่านมา แต่ยังมียอดขายลดลงมากกว่าเดิมจากในเดือนตุลาคมที่ร่วงหนักมากถึง -23% อีกด้วย ขณะที่ ราคาขายอสังหาริมทรัพย์ใหม่เดือนพฤศจิกายนใน 70 เมืองทั่วประเทศ พบว่ามีราคาลดลง -0.25% เมื่อเทียบกับเดือนตุลาคม ส่งผลกระทบไปถึงธุรกิจจำหน่ายวัสดุก่อสร้างและตกแต่งร่วงลง -10% นับตั้งแต่ปีนี้มาถึงปัจจุบัน ท่ามกลางการลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์จีนแผ่นดินใหญ่ตกต่ำมากเกือบ -20% ตั้งแต่ต้นปีนี้

สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญมาก ได้แก่ อัตราการว่างงานเดือนพฤศจิกายนในจีนแผ่นดินใหญ่ พบว่ามีอัตราว่างงานสูงถึงระดับ 5.3% ทำสถิติว่างงานสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมผ่านมา หรือในรอบ 6 เดือนกว่า

ด้านธนาคารกลางจีนแผ่นดินใหญ่ประกาศเพิ่มเงินสดเข้าไปในระบบการเงินของธนาคารในประเทศมูลค่า 150,000 ล้านหยวน หรือ 22,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 770,000 ล้านบาท เพื่อเป้าหมายเพิ่มปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจหวังกระตุ้นกำลังซื้อและการบริโภคในจีนแผ่นดินใหญ่

อย่างไรก็ตาม บรรดานักเศรษฐศาสตร์และนักวิเคราะห์ชั้นนำจากธนาคารชั้นนำระดับโลกล้วนประเมินตรงกันว่า สถานการณ์เศรษฐกิจจีนแผ่นดินใหญ่จะสะดุดลงอีกในอีกหลายเดือนข้างหน้าท่ามกลางปัจจัยเศรษฐกิจโลกชะลอตัว การเปิดประเทศที่จะนำมาซึ่งความเสี่ยงของการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 พุ่งขึ้นอย่างก้าวกระโดด และภาวะเงินเฟ้อที่จะเริ่มพุ่งสูงขึ้นจากปกติจากความต้องการบริโภคของชาวจีนที่เพิ่มขึ้นแต่จะอยู่ในข้อจำกัดมากมาย

ทั้งนี้ อัตราการขยายตัวเศรษฐกิจจีนแผ่นดินใหญ่ปีนี้ คาดว่าจะขยายตัวลดต่ำลงอย่างมากมาเหลือเพียง 3.2% ทำสถิติเศรษฐกิจจีนแผ่นดินใหญ่ตกต่ำเลวร้ายที่สุดในรอบช่วงทศวรรษ 1950 หรือในรอบ 52 ปีผ่านมา