ศบค.มีมติให้ทูตเข้าไทยต้องกักตัว 14 วัน – ระงับเที่ยวบินกองทัพอากาศอียิปต์

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศบค.เปิดเผยถึงเหตุการณ์ทหารอียิปต์และ 1 ในคณะทูตติดเชื้อโควิด 19 ว่า ทางศบค.ขอรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด และจะทำให้ดีที่สุด และเสียใจกับคำพูดที่ย้ำเรื่องการ์ดตก เพราะเจ้าหน้าที่รัฐการ์ดตกเสียเอง ซึ่งจะมีการพิจารณาและปรับปรุงให้ดีขึ้น โดยเฉพาะจุดเล็กๆที่ก่อให้เกิดความหละหลวม เช่นกรณีทหารอียิปต์ไปลงพื้นที่สนามบินอู่ตะเภา แทนการลงพื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นเรื่องไม่คาดคิดมาก่อน
.
ที่ประชุมศบค.จึงได้มีมติ 3 ข้อได้แก่
.
1) ศบค.จะดำเนินการทบทวนการผ่อนคลายมาตรการกักกันของบุคคลในคณะทูต โดยเฉพาะ คู่สมรส บิดามารดา หรือบุตรของบุคคลดังกล่าว ซึ่งกระทรวงต่างประเทศจะให้นักการทูตทีเดินทางเข้าประเทศต้องเข้าพื้นที่ State Quarantine ที่ภาครัฐจัดให้เป็นเวลา 14 วัน
.
2) กระทรวงต่างประเทศจะยกเลิกการอนุญาตการบินเข้าของเที่ยวบินกองทัพอากาศอียิปต์ที่ได้อนุญาตไปแล้วและกำลังอนุญาตจำนวน 8 เที่ยวบิน
.
3)ให้ชะลอการอนุญาตการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรแบบผ่อนคลายมาตรการ State Quarantine ตามข้อกำหนด ฉบับที่ 12 (2)กลุ่มที่มี่เหตุกยกเว้นหรือได้รับอนุญาต,(3)บุคคลในคณะทูต,(11)กลุ่มนักธุรกิจระยะสั้นไปก่อน และมีการทบทวนมาตรการควบคุมให้มีความรัดกุมรอบคอบ
.
จึงขออภัยประชาชนในพื้นที่ระยองและกทม. รวมถึงกลุ่มโรงเรียนที่ต้องปิด เป็นเรื่องที่ศบค.ไม่สบายใจ
.
ส่วนกรณีทหารอียิปต์ไปเที่ยวกลางคืนหรือไม่นั้น จากการสอบสวนพบว่าไม่มีการไปเที่ยวกลางคืนตามกระแสข่าว เพราะมีภารกิจบินในช่วงเช้า
.
ส่วนกลุ่มเสี่ยงในแต่ละพื้นที่ได้มีการเช็คผ่านแอปพลิเคชันไทยชนะ และดูเส้นทางการเดินทางของทหารอียิปต์ทั้ง 31 คน และกลุ่มใกล้ชิดทุกรายในทุกช่วงเวลา จะได้มั่นใจว่าตีวงขอบเขตได้ และจะมีแจ้งเตือนให้เข้ารับการตรวจ และกักตัว 14 วัน
.
ส่วนจะต้องล็อกดาวน์หรือไม่คงต้องเฝ้าระวังอีก 14 วันว่ามีผู้ติดเชื้อหรือไม่ ถ้าจัดการได้ก็ไม่ต้องล็อกดาวน์ แต่ถ้าไม่ได้รับความร่วมมือมาตรการต่างๆจะเกิดขึ้น
.
ส่วนมาตรการเยียวยายังไม่ได้มีการหารือในส่วนนี้ เพราะหากจะหารือต้องคิดถึงเคสสนามมวย และทองหล่อด้วย ต้องโยงไปถึงทุกที่เพราะเป็นเรื่องใหญ่ แต่จะจัดการให้ดีที่สุด