ศบค.เริ่มทดลองปรับลดวันกักตัวเหลือ 10 วัน ส่วนกิจกรรมปีใหม่ต้องมีคนเข้าร่วมไม่เกิน 50% ของพื้นที่
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. เปิดเผยว่า ที่ประชุม ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ได้นำเสนอเรื่องการปรับวันตรวจหาเชื้อโควิด-19 สำหรับผู้เข้ารับการกักกันตัวในสถานที่กักตัวที่ทางราชการกำหนด
.
โดยได้กำหนดแนวทางการตรวจหาเชื้อเพื่อยืนยันเชื้อ (Swab) เพิ่มเป็น 3 ครั้ง จากเดิม 2 ครั้ง ซึ่งจะมีการตรวจหาเชื้อครั้งแรกในช่วงวันที่ 0-1 ตรวจครั้งที่ 2 วันที่ 9-10 และตรวจครั้งที่ 3 วันที่ 13-14 ซึ่งจะดำเนินการในระหว่างวันที่ 1-31 ธ.ค.2563 เพื่อนำมาวิเคราะห์และประเมินผลภายในวันที่ 1-15 ม.ค.64 โดยจะนำข้อสรุปที่ได้นี้มาประกอบการพิจารณาตัดสินใจว่าจะต้องมีการลดระยะเวลาการกักตัวผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศลงเหลือ 10 วัน จาก 14 วันหรือไม่
.
ที่ประชุม ศบค.ยังได้หารือถึงการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดในช่วงเทศกาลคริสต์มาส และเทศกาลปีใหม่ 2564 โดยได้กำชับและเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ความสำคัญกับการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดอย่างเคร่งครัด ในการจัดกิจกรรมที่มีการรวมตัวของคนจำนวนมาก หรือในสถานที่ที่มีคนแออัด
.
พร้อมขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มความถี่ในการออกตรวจตรา เพื่อป้องปรามให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด รวมถึงให้ถือปฏิบัติตามาตรการป้องกันโรค แก้ไข ระงับยับยั้ง ฟื้นฟู หรือช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์ฉุกเฉินที่ยังมีผลบังคับใช้
.
ทั้งนี้ มาตรการเพื่อป้องกันควบคุมโรคติดเชื้อโควิด-19 ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ได้แก่
.
1.ให้ผู้จัดคอนเสิร์ต ดนตรี นาฏศิลป์ การแสดงเพื่อการเฉลิมฉลองในช่วงเทศกาลปีใหม่ในพื้นที่สาธารณะ สถานที่โล่งแจ้ง พื้นที่ไม่มีโครงสร้างที่นั่ง หรือไม่สามารถจัดที่นั่งได้เป็นการปกติ ปฎิบัติตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 ดังนี้
.
ควบคุมจำนวนผู้ชม ผู้ร่วมกิจกรรมไม่ให้แออัด โดยคิดเกณฑ์พื้นที่ของผู้ชมไม่เกิน 50%ของพื้นที่จัดงานทั้งหมด และกำหนดพื้นที่ต่อจำนวนผู้ชมให้ไม่น้อยกว่า 1 ตร.ม./คน และจัดแบ่งพื้นที่สำหรับผู้ร่วมชมการแสดง เป็นกลุ่มย่อย และกำหนดให้มีพื้นที่ทางเดินภายในงานที่เพียงพอ
.
2.ให้จังหวัดควบคุม กำกับ การจัดงานรื่นเริง คอนเสิร์ต ดนตรี นาฏศิลป์ การแสดง เพื่อการเฉลิมฉลองในช่วงเทศกาลปีใหม่ ในพื้นที่ให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19
