สนพ.คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น

นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) เปิดเผยว่า สนพ.ได้ติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลกในระหว่างวันที่ 27 เม.ย. – 5 พ.ค. 2563 พบว่าราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากตลาดคาดว่าความต้องการใช้น้ำมันเริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการที่หลายประเทศ เช่น สหรัฐฯ ฝรั่งเศส อิตาลี ฟินแลนด์ สเปน อีกทั้งประเทศต่างๆ ทั่วโลก เริ่มผ่อนคลายมาตรการปิดเมือง หลังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เริ่มมีแนวโน้มดีขึ้นและต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศให้ฟื้นตัว
.
ที่สำคัญกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตรหรือกลุ่มโอเปกพลัส ได้เริ่มเดินหน้าปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบตามข้อตกลงที่ ระดับ 9.7 ล้านบาร์เรล/วัน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 2563 ตามข้อตกลงในการประชุมฉุกเฉินในช่วง 12 เม.ย. 2563 ที่ผ่านมา
.
โดยราคาน้ำมันดิบดูไบและเวสต์เท็กซัส เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 18.10 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และ 15.76 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว 0.50 ดอลลาร์สหรัฐ และ 12.53 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ตามลำดับ
.
ด้านประเทศไทยปัจจัยค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้ว 0.03 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ มาอยู่ที่ระดับเฉลี่ย 32.6064 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ต้นทุนน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 0.17 บาทต่อลิตร แต่ต้นทุนน้ำมันดีเซลลดลง 0.15 บาทต่อลิตร ทำให้ ค่าการตลาดของน้ำมันเบนซิน น้ำมันแก๊สโซฮอล และน้ำมันดีเซล เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 2.01 บาทต่อลิตร และค่าการกลั่น เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 0.97 บาทต่อลิตร
.
สำหรับฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงณ วันที่ 3 พ.ค. 63 กองทุนน้ำมัน มีสินทรัพย์รวม 56,548 ล้านบาท หนี้สินกองทุน 21,093 ล้านบาท โดยมีฐานะกองทุนน้ำมันสุทธิ 35,455 ล้านบาท แยกเป็น บัญชีน้ำมัน 41,465 ล้านบาท และบัญชี ก๊าซหุงต้ม(แอลพีจี) ติดลบ 6,010 ล้านบาท