สภาพัฒน์มองคนไทย 3 กลุ่มรับเงินเฟ้อไทยทะลุกว่า 6-7% ได้ ชี้สงครามรัสเซียยืดเยื้อ

314
0
Share:
เงินเฟ้อ

นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือสภาพัฒน์ กล่าวว่า ทั้งปี 2565 เศรษฐกิจไทยยังขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่า 3% ท่ามกลางสถานการณ์สงครามรัสเซียกับยูเครน เงินเฟ้อที่พุ่งสูง ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกมีราคาสูง

สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจไตรมาส 2 ยังไม่มีปัจจัยมาฉุดรั้งมากกว่าปัจจัยเดิมที่มีอยู่ ทั้งสงครามรัสเซียกับยูเครนยังไม่จบ อัตราเงินเฟ้อที่ยังพยายามคุม ยังมีสินค้าโภคภัณฑ์ วัตถุดิบที่ยังราคาสูง ทั้งอาหารสัตว์ ปุ๋ย เหล็ก ทองแดง จากสงครามที่ยังไม่ยุติ ยิ่งรบกันนาน ราคาจะยิ่งผันผวนมากขึ้น ซึ่งวัตถุดิบเป็นปัจจัยการผลิตของประเทศ

เลขาธิการสภาพัฒน์ กล่าวว่า การขับเคลื่อนเศรษฐกิจในครึ่งปีหลังนี้ จะมีแรงส่งจากภาคการท่องเที่ยวที่เกิดขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามา 6 แสนคน มากกว่าปี 2563 ที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาทั้งปีอยู่ที่ 5 แสนคน ดังนั้น ในช่วงที่เหลือของปีนี้คงจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาอีกเรื่อยๆ ล่าสุด รัฐผ่อนคลายมาตรการเข้าประเทศให้สะดวกมากขึ้น ถือเป็นการเปิดประเทศเกือบเต็มรูปแบบ 100% ยังเหลือการปลดล็อกไทยแลนด์พาสที่จะพิจารณาครั้งต่อไป จะส่งผลให้การท่องเที่ยวค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้น แต่อาจจะยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ และปีนี้คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาประมาณ 4-5 ล้านคนเท่านั้น

สถานการณ์เงินเฟ้อของประเทศไทยที่ทำให้ต้นทุนสินค้าเพิ่มซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยภายนอก ทั้งราคาน้ำมัน และสงครามรัสเซียกับยูเครน หากสถานการณ์ยังยืดเยื้อมีความเป็นไปได้อัตราเงินเฟ้อระหว่างปีจะอยู่ที่ 6% แต่คาดว่าเฉลี่ยทั้งปีอัตราเงินเฟ้อจะไม่เกินกรอบ 4.9% ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดการณ์ไว้

ถ้าเศรษฐกิจยังโตได้ เงินเฟ้อก็ยังไม่น่าห่วงมาก แต่ต้องมีมาตรการเข้าไปช่วยกลุ่มเปราะบางที่เป็นผู้มีรายได้น้อย เพราะคนไทยมีหลายกลุ่ม มีทั้งกลุ่มรายได้ปานกลาง กลุ่มปานกลางค่อนข้างสูง และกลุ่มรายได้สูง ซึ่ง 3 กลุ่มนี้มีความสามารถรับมือเงินเฟ้อที่ 6-7% ได้ แต่คนที่มีรายได้น้อย รัฐจะต้องเข้าไปช่วย หรือแม้กระทั่งกลุ่มผู้มีรายได้ปานกลางก็อาจจะต้องมีมาตรการบางอย่างมาช่วยด้วย เป็นคนละมาตรการที่ออกไปก่อนหน้านี้ รอประเมินสถานการณ์ไตรมาสที่ 2 นี้มีผลกระทบรุนแรงแค่ไหน