สรรพากรเปิดโอกาสบุคคลธรรมดาเสียภาษีแบบผ่อนชำระได้ 3 งวด ไม่มีดอกเบี้ย

707
0
Share:

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า การจัดเก็บรายได้ในปี 2563 จะไม่นำเป้าหมายจัดเก็บ 2.11 ล้านล้านบาท มาเป็นที่ตั้ง เพราะขณะนี้อยู่ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ประชาชนและผู้ประกอบการได้รับความเดือดร้อน ถ้ากรมสรรพากรมุ่งเก็บภาษีให้ได้ตามเป้าหมาย คนที่เดือดร้อนก็คือประชาชน
.
สำหรับการจัดเก็บรายได้ของกรมในปีนี้ จะต้องมีการหารือกับสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) อีกครั้ง โดยวัดจากการจัดเก็บรายได้เดือน ส.ค. เป็นตัวชี้ขาดว่า การเก็บรายได้ทั้งปี 2563 จะเป็นเท่าใด เนื่องจากที่ผ่านมาการทำประมาณการรายได้ อยู่บนพื้นฐานเศรษฐกิจไทยขยายตัว 5% แต่ขณะนี้คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัว -8% โดยรายได้ที่ตั้งไว้ 2.11 ล้านล้านบาท คงไม่สามารถทำได้ในภาคปฏิบัติ
.
แต่การเก็บรายได้ในปี 2563 ยังไม่น่าห่วง เพราะเป็นการเก็บจากฐานรายได้ปี 2562 ซึ่งยังไม่ได้รับผลกระทบจากโควิดที่น่าเป็นห่วงคือ รายได้ปี 2564 ที่ตั้งไว้ 2.08 ล้านล้านบาทตามเอกสารงบประมาณ จะต้องกลับมาพิจารณาในภาพใหญ่อีกครั้ง
.
ขณะนี้มีผู้ยื่นแบบเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในปี 2563 รวม 10 ล้านราย จากปีก่อน 11.5 ล้านราย ส่วนนิติบุคคล ยื่นแล้ว 2 แสนรายจากปีก่อน 5 แสนราย โดยคาดว่าใกล้วันสิ้นสุดยื่นแบบ จะได้จำนวนใกล้เคียงกับปีก่อน โดยกรมจะพยายามสื่อสารไปยังกลุ่มผู้ประกอบการค้าขายออนไลน์ ให้เข้ามายื่นแบบเสียภาษี โดยย้ำว่าสรรพากรไม่น่ากลัว ซึ่งจัดตั้งทีม ที่ปรึกษากรมสรรพากร พร้อมให้คำแนะนำผู้ค้าขายออนไลน์ สามารถเดินมาที่สรรพากรพื้นที่ เพื่อเสียภาษีถูกต้องได้ ภายในวันที่ 31 ส.ค.
.
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการบรรเทาผลกระทบจากโควิด-19 กรมสรรพากรพร้อมที่จะให้ผู้เสียภาษีบุคคลธรรมดาผ่อนชำระภาษีได้ 3 งวดไม่มีดอกเบี้ย แต่ต้องมีภาษีที่ชำระไม่ต่ำกว่า 3,000 บาท ถ้าไม่ต้องการจ่ายครั้งเดียวก็ผ่อนชำระได้ ดีกว่าปล่อยไว้ ซึ่งจะโดนเบี้ยปรับ 1.5% ของภาษีประเมิน เป็นไปตามประมวลรัษฎากร ไม่มีผ่อนผัน ซึ่งถือว่าเป็นอัตราที่สูง
.
ส่วนนิติบุคคล หากมีปัญหาเรื่องสภาพคล่อง จากการชำระภาษี ก็สามารถนำหลักฐานการชำระภาษีไปใช้ยื่นกู้กับธนาคารกรุงไทย และธนาคารเพื่อการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) เพื่อขอสินเชื่อเสริมสภาพคล่องได้ ซึ่งเป็นความร่วมมือของกรม ในโครงการสินเชื่อต่อยอดผู้ประกอบการดีชำระภาษีถูกต้อง
.