สาธารณสุขยอมรับโควิด-19 ขาขึ้นรอบใหม่ในไทย พุ่งสูงสุดกันยายน 4,000 ราย/วัน

401
0
Share:
สาธารณสุข ยอมรับ โควิด-19 ขาขึ้นรอบใหม่ในไทย พุ่งสูงสุดกันยายน 4,000 ราย/วัน

นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แถลงสถานการณ์โควิดประจำวันเมื่อวานนี้ 4 กรกฎาคม 2565 ว่า สำหรับประเทศไทยมี BA.5 เพิ่มขึ้นมา 20% ใกล้เคียงกับทั่วโลก เพราะเรามีการเดินทาง ไม่ได้จำกัดการเดินทาง มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาก็อาจพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น รวมถึงสายพันธุ์ BA.4 BA.5 ด้วย แต่ของไทยเรายังไม่พบพีคใหม่ที่ชัดๆ เหมือนแอฟริกาใต้ อังกฤษ หรืออเมริกา รวมถึงในฝรั่งเศสและออสเตรเลีย เรากำลังจะเข้าสู่ระยะที่อาจจะพบ การระบาดที่อาจเพิ่มเติม หลังโอมิครอนระบาดในส่วนของ BA.1 และ BA.2 มาแล้ว และการระบาดของ BA.4 และ BA.5 ก็อาจจะมีผลตามมาบ้าง

ขณะนี้ในไทยผู้ป่วยปอดอักเสบเริ่มเพิ่มขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และเริ่มเพิ่มจำนวนมากขึ้นจาก 630 ราย เป็น 670 ราย สถานการณ์จะสอดคล้องกับผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยรายใหม่ ส่วนผู้ป่วยปอดอักเสบอาจต้องใช้เวลาอีกสักระยะถึงจะมีอาการหนักได้

ส่วนผู้ป่วยเสียชีวิตสถานการณ์อยู่ในเกณฑ์คงตัว ขณะที่ผู้ป่วยอาการที่ไม่รุนแรงมีจำนวนเพิ่มขึ้น จากที่เคยอยู่ในระดับหมื่นราย ตอนนี้เพิ่มขึ้นมาเป็น 14,000-15,000 รายแล้ว ก็แสดงว่า การแพร่กระจายของเชื้ออยู่เป็นวงกว้าง เช่น ในครอบครัว คนใกล้ชิดแล้วก็รักษาตัวที่บ้าน และลงทะเบียนรับยาตามระบบอยู่ ทำให้ระบบ OPSI (ATK) หรือระบบผู้ป่วยนอกที่รับการรักษาที่โรงพยาบาลเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมา จาก 191,000 ราย เพิ่มเป็น 207,643 ราย ณ วันที่ 3 ก.ค.2565 เพิ่มขึ้นค่อนข้างเยอะในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

จึงเป็นสัญญาณเตือนเริ่มต้นว่ากรุงเทพฯ ปริมณฑล จังหวัดใหญ่ จังหวัดท่องเที่ยว ต้องพิจารณาควบคุมการระบาดบางส่วน อาจจะต้องเพิ่มมาตรการป้องกันโรค เช่น การสวมหน้ากากอนามัย โดยเฉพาะพื้นที่รวมกลุ่มคนมากๆ ขนส่งสาธารณะทุกประเภท ทั้งนี้ สถานที่เสี่ยง พบระบาดกลุ่มก้อนในจังหวัดเหล่านี้ รวมถึง 3 จังหวัดชายแดนใต้ คือ โรงเรียน สถาบันการศึกษาหลายจังหวัด โดยพบเป็นคลัสเตอร์เล็กๆ ซึ่งคุมได้ แต่อาจจะแพร่สู่ครอบครัว กลุ่ม 608 ได้

ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวต่อว่า จากการคาดการณ์หลังวันที่ 1 กรกฎาคมเป็นต้นไป จนถึงปี 2566 คาดว่าตั้งแต่สัปดาห์นี้เป็นต้นไป จนถึง 10 สัปดาห์ข้างหน้า สถานการณ์ของประเทศไทยจะมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นและจำนวนป่วยเพิ่มขึ้น และเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล (รพ.) มากขึ้น แต่อาจจะเข้ารับการรักษาใน รพ.ไม่มากเท่าช่วงต้นที่เชื้อโอมิครอนระบาด ซึ่งมีหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวัคซีนที่ฉีดจำนวนมาก

แต่อีกปัจจัยสำคัญคือ การป้องกันโรคส่วนบุคคล หากยังป้องกันใกล้เคียงก่อนผ่อนคลายมาตรการกราฟจะไม่สูงมาก แต่หากผ่อนคลายหมด คนไม่สวมหน้ากากเลย เส้นกราฟจะแตกต่าง โดยคาดว่าเดือนกันยายนจะมีผู้ป่วยสูงสุดวันละ 4,000 คน

สรุปผู้ป่วยปอดอักเสบเข้า รพ. และครองเตียง ภาพรวมทั้งประเทศประารร้อยละ 10.9 บางจังหวัดมีการปรับเตียงไปใช้ดูแลผู้ป่วยโรคอื่นๆ แล้ว เหลือเตียงสำหรับโควิด-19 ไว้บางส่วน จึงทำให้ดูเหมือนว่า สัดส่วนอัตราการครองเตียงสูงขึ้น เช่น กรุงเทพฯ ปริมณฑล จังหวัดท่องเที่ยวอื่นๆ แต่การครองเตียงที่ระดับร้อยละ 20-30 ยังสามารถรองรับได้ เพราะเกณฑ์การรองรับคือ ร้อยละ 50 หากเกินนี้จึงจะมีมาตรการเพิ่มเตียงได้

สถานการณ์ที่มีการแอตมิตรับการรักษาในโรงพยาบาล ตอนนี้กรุงเทพและปริมณฑลเป็นจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อและเข้ารับการรักษาโดยนอนโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นพอสมควร และยังมีเพิ่มขึ้นในบางจังหวัด เช่นสมุทรปราการ ชลบุรี และจังหวัดปริมณฑลอย่างนนทบุรีและปทุมธานี

จากการติดตามสถานการณ์ตอนนี้สอดคล้องกัน ทั้งประเทศมีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นในกลุ่มกรุงเทพฯและปริมณฑลและในจังหวัดใหญ่ๆ โดยเฉพาะจังหวัดท่องเที่ยว ในขณะที่จังหวัดเล็กๆที่เคยเพิ่มขึ้นมาเมื่อ 2 เดือนที่แล้วลดลงไปพอสมควร ตอนนี้กลับมาระบาดที่จังหวัดใหญ่ๆ แทน