สายสีทองเริ่มเก็บค่าโดยสาร 16 ม.ค.นี้เป็นวันแรก ในอัตรา 15 บาทตลอดสาย

576
0
Share:

ดร.เกรียงพล พัฒนรัฐ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทฯได้เปิดให้บริการเดินรถ ระบบขนส่งมวลชนระบบรองสายสีทอง สถานีกรุงธนบุรี(G1) – สถานีคลองสาน (G3) โดยเปิดให้บริการฟรีตามนโยบายของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นระยะเวลา 1 เดือน ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 15 มกราคม 2564 และจะเริ่มเก็บค่าโดยสารในอัตรา 15 บาทตลอดสาย ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2564 นี้เป็นต้นไป ซึ่งนอกจากการใช้บริการกดบัตรโดยสารที่บริเวณสถานีแล้ว ผู้โดยสารที่ใช้บัตรโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอสรายเดือนและบัตรแรบบิท สามารถใช้บัตรดังกล่าวเข้าใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีทองได้เช่นกัน โดยหักเป็นรายเที่ยว หรือหักตามมูลค่าค่าโดยสารเที่ยวละ 15 บาท แล้วแต่ชนิดของบัตร
.
จากสถิติการให้บริการรถไฟฟ้าสายสีทอง ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา พบว่า มีผู้โดยสารเฉลี่ยที่ประมาณ 10,000 เที่ยวคนต่อวัน โดยสถานีที่มีประชาชนใช้บริการสูงสุดคือที่สถานีเจริญนคร (G2) แต่จากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ในระลอกสองที่เริ่มมีผู้ป่วยในกรุงเทพฯตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ธันวาคม 2563 ต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ซึ่งภาครัฐได้ออกมาตรการควบคุมโรค ที่เข้มงวดมากขึ้น โดยประกาศให้สถานศึกษาในพื้นที่หยุดเรียน เน้นการทำงานจากที่บ้าน ( Work from home) รวมทั้งการจำกัดจำนวนคนเข้าสถานที่ต่าง ๆ และเข้มงวดการเดินทางของประชาชน
.
ทำให้ผู้โดยสารลดลงกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ โดยปัจจุบันมีผู้โดยสารที่ประมาณ 3,000 เที่ยวคน/วัน ซึ่งเป็นแนวโน้มในทิศทางเดียวกันกับปริมาณผู้โดยสารในส่วนต่อขยายสายสีเขียวช่วงห้าแยกลาดพร้าว (N9) – คูคต (N24 ) ที่บริษัทฯได้เปิดให้บริการถึงสถานีปลายทางคูคต ไปเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2563 มีผู้โดยสารเฉลี่ยที่ 125,444 เที่ยวคนต่อวัน ซึ่งในช่วงแรกที่ให้บริการมีผู้โดยสารมากกว่า 150,000 เที่ยวคนต่อวัน แต่จากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ผู้โดยสารลดลง ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 80,000 เที่ยวคนต่อวัน โดยในส่วนต่อขยายสายสีเขียว ขณะนี้ทางฝ่ายนโยบายยังไม่มีกำหนดจัดเก็บค่าโดยสาร