“สุพัฒนพงษ์” เผยนายกฯ สั่งลดค่าไฟแล้ว แต่รับไม่สามารถทำให้ถูกใจได้ทุกกลุ่ม

201
0
Share:
“สุพัฒนพงษ์” เผยนายกฯ สั่ง ลดค่าไฟ แล้ว แต่รับไม่สามารถทำให้ถูกใจได้ทุกกลุ่ม

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีการสั่งให้ทบทวนราคาค่าไฟฟ้าผันแปร (เอฟที) ให้ถูกลงกว่าเดิมที่ 190.44 สตางค์ต่อหน่วย หรือคิดเป็นค่าไฟ 5.69 บาทต่อหน่วยแน่นอน แต่คงไม่เยอะเท่าไหร่และอาจไม่ถูกใจใครบางกลุ่ม ซึ่งขณะนี้ได้ส่งตัวเลขให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เรียบร้อยแล้ว โดยวันที่ 28 ธ.ค. 2565 จะมีการประชุมบอร์ดกกพ.เพื่อคำนวณตัวเลขใหม่อีกครั้งในหลายมิติ

ทั้งนี้อยากให้ทำความเข้าใจว่าเป็นวิกฤติพลังงานจริง ๆ ซึ่งการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว(LNG) มีราคาสูงมากอยู่ที่ระดับ 29-30 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู ดังนั้น สิ่งที่ต้องคิดคือการปรับตัว ซึ่งขณะนี้ บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. จะเร่งกำลังผลิตในอ่าวไทยให้มากขึ้น โดยในต้นปี 2566 จะเพิ่มกำลังผลิตได้ จึงอยากให้เข้าใจว่าของมีขึ้นได้ก็ลงได้

“ในช่วงนี้ภาคธุรกิจฟื้นตัวดีขึ้นส่งผลให้การใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นมากมาก และยิ่งมากเท่าไหร่เราต้องนำเข้า LNG มากขึ้นเท่านั้น ซึ่งวันนี้เรานำเข้าเชื้อเพลิงมากแพงเพื่อผลิตไฟฟ้า ซึ่งเป็นราคาที่ยังไม่ได้คิดค่าสายส่ง จะตกหน่วยละประมาณ 6.50 บาท แต่หากรวมแล้วจะตกหน่วยละ 7-8 บาท ซึ่งก็มีแผนที่จะลดการนำเข้าก๊าซ LNG ใช้น้ำมันดีเซลมาผลิตไฟฟ้าแทน เดือนละ 400 ล้านลิตร หรือ 15% ของการใช้เชื้อเพลิงทั้งหมด และการขยายเวลาใช้ถ่านหิน 5% รวมเป็น 20% เข้าไปแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) แบกหนี้กว่า 1 แสนล้านบาท” นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เห็นได้ชัดคือภาคครัวเรือนก็เริ่มมีการประหยัด ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะช่วยอย่างไร เพราะเป็นกลุ่มที่ใช้ไฟลดลง ซึ่งใช้ไฟโดยรวมที่ 17% ของภาคพลังงานทั้งหมด รัฐบาลก็ไม่ได้อยากไปผลักภาระให้กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีบุญคุณต่อการเติบโตของประเทศ และยืนยันว่าตัวเลขเอฟทีจะลดลงแน่นอน แต่อาจไม่ถูกใจใคร จึงอยากให้มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ซึ่งทุกฝ่ายพยายามเต็มที่ ต้องเสริมสภาพคล่องกฟผ.ด้วย ซึ่งพิจารณาตัวเลขคืนกฟผ.ที่ 0.33 สตางค์คือต่ำเท่าที่จะต่ำได้แล้ว

“อยากให้กลุ่มธุรกิจทำเหมือนตอนเราแก้ปัญหาโควิด หันหน้าคุยกัน เราตระหนักว่าอะไรปรับได้ก็ปรับ ซึ่งอยากให้คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ช่วยดูตรงนี้ เพราะเป็นภาคพลังงานที่ใช้แก๊ส LNG เป็นเชื้อเพลิงสูง และใช้ในราคาเฉลี่ยเหมือนกัน ซึ่งเอกชนยังไม่มีความพยายามใช้น้ำมันเตาหรือแก๊สตัวอื่นเลย อย่ามาเอาค่าเฉลี่ยราคาเท่ากับประชาชนกว่า 23 ล้านครัวเรือน มี”นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว