หญิงชราเบลเยี่ยมติดทั้งพันธุ์อังกฤษและแอฟริกาใต้เสียชีวิต

461
0
Share:
การประชุมวิชาการด้านจุลชีววิทยาคลินิก และโรคระบาดติดเชื้อแห่งยุโรป หรือ ECCMID 2021 เปิดเผยว่า นายแพทย์รายหนึ่งได้เปิดเผยกรณีการเสียชีวิตของหญิงชราสัญชาติเบลเยี่ยมเมื่อช่วงเดือนมีนาคมของปีนี้ หญิงชรารายนี้มีอายุ 90 ปี ติดโรคระบาดโควิด-19 ทั้ง 2 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์อัลฟา(อังกฤษ) และสายพันธุ์เบตา(แอฟริกาใต้) ซึ่งทั้ง 2 สายพันธุ์ถูกจัดให้เป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวล ขององค์การอนามัยโลก
.
หญิงชรารายนี้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล OLV ในเมืองอาลสต์ ประเทศเบลเยียม ทีมแพทย์ตรวจพบว่าหญิงสูงอายุคนดังกล่าวติดโรคระบาดโควิด-19 โดยมีระดับออกซิเจนในร่างกายลดลงอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นจึงเสียชีวิตใน 5 วันต่อมา อย่างไรก็ตาม หญิงสูงอายุที่เสียชีวิตจากการติดเชื้อถึง 2 สายพันธุ์นั้นไม่ได้รับการฉีดวัคซีน สำหรับกรณีการเสียชีวิตรายนี้ อาจถือเป็นรายแรกที่มีการจดบันทึก และรายงานไว้อย่างเป็นทางการ
.
บรรดาผู้เชี่ยวชาญในยุโรป ออกมาเตือนถึงความเสี่ยงการติดเชื้อไวรัสโควิดสองสายพันธุ์ในเวลาเดียวกันว่า มีความเป็นไปได้สูงและกำลังตรวจพบกรณีเช่นนี้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ หลังหญิงชราวัย 90 ปีในเบลเยียมเสียชีวิตลงด้วยโรคโควิด-19 โดยมีเชื้อกลายพันธุ์ทั้งชนิดอัลฟาและเบตาอยู่ในร่างกาย
.
ดร. แอนน์ ฟานเคียร์แบร์เกน นักชีววิทยาระดับโมเลกุลประจำโรงพยาบาล OLV เปิดเผยว่า หญิงชราผู้นี้อยู่ตามลำพัง โดยมีผู้ช่วยทำงานบ้านและผู้ดูแลผลัดกันมาที่พักของของหญิงคนนี้ อย่างไรก็ตาม แพทย์และวิจัยที่ทำการศึกษากรณีดังกล่าวยังไม่ทราบว่าผู้ตายติดเชื้อได้อย่างไร ประเทศเบลเยี่ยมพบการแพร่ระบาดของโรคระบาดโควิด-19 ทั้ง 2 สายพันธุ์ภายในประเทศในช่วงเดือนมีนาคม เบื้องต้น อาจมีความเป็นไปได้ที่ผู้เสียชีวิตอาจรับเชื้อกลายพันธุ์ต่างชนิดมาจากบุคคลที่เป็นพาหะทั้งสองคนที่ผลัดเปลี่ยนไปยังบ้านของผู้เสียชีวิต
.
สำหรับกรณีการติดเชื้อถึง 2 สายพันธุ์ในตัวผู้ป่วยนั้น เมื่อเดือนมกราคม 2564 นักวิทยาศาสตร์จากบราซิล รายงานว่าพบผู้ป่วยชาย 2 ราย ซึ่งทั้ง 2 รายก็ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 คนละ 2 สายพันธุ์ภายในเวลาเดียวกัน ในเวลาต่อมา นักวิจัยจากโปรตุเกสตรวจพบวัยรุ่นอายุ 17 ปี ซึ่งติดโรคระบาดโควิดสายพันธุ์ที่ 2 ในช่วงระหว่างการพักฟื้น ซึ่งเกิดขึ้นหลังหายจากการติดเชื้อสายพันธุ์แรกที่ทำให้เขาล้มป่วย