‘หมอธีระ’ เตือนการ”เปิดประเทศ” ไทยต้องยอมรับว่ายังไม่พร้อม

345
0
Share:

‘หมอธีระ’ เตือนการ”เปิดประเทศ” ไทยต้องยอมรับว่ายังไม่พร้อม วัคซีนไม่เพียงพอ หากพลาดมีโอกาสส่งผลกระทบยาวนานและสาหัส
.
รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ระบุว่า สถานการณ์โควิดในไทย
เมื่อวาน (19 ก.ย.) จำนวนติดเชื้อใหม่ 13,576 คนที่รายงานนั้น ยังคงสูงเป็นอันดับ 9 ของโลก แต่หากรวมจำนวนที่ตรวจ ATK อีก 2,509 คน จะทำให้แซงขึ้นเป็นอันดับ 7 ของโลก เป็นรองเพียงแค่อเมริกา อินเดีย สหราชอาณาจักร ตุรกี รัสเซีย และฟิลิปปินส์เท่านั้น
.
ด้วยความซับซ้อนของระบบสังคมที่เป็นอยู่ท่ามกลางสถานการณ์ระบาดที่ยังรุนแรงต่อเนื่องดังที่เห็นในปัจจุบัน ทิศทางนโยบายที่มุ่งหน้าไปสู่การเปิดท่องเที่ยว เปิดประเทศ โดยที่มีโรคระบาดในพื้นที่ และระบบสนับสนุนที่จำเป็นยังมีข้อจำกัด
ทั้งการเข้าถึงบริการตรวจคัดกรองโรคมาตรฐาน การใช้วิธีตรวจทางเลือก (ATK) ที่อาจมีความไวไม่มากนักและเสี่ยงต่อการเกิดผลลบปลอมได้ รวมถึงเรื่องวัคซีน ทั้งเรื่องชนิดที่ใช้ และปริมาณที่ยังไม่เพียงพอหรือครอบคลุม
.
ความเสี่ยงต่อการระบาดที่ทวีความรุนแรงขึ้นย่อมมีสูง ดังจะเห็นได้จากหลากหลายพื้นที่ที่กำลังเผชิญอยู่
ปัจจัยข้างต้นจะนำไปสู่ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ความไม่เป็นธรรม ที่จะมากขึ้นเรื่อย ๆ หากการระบาดเป็นไปอย่างต่อเนื่องหรือรุนแรงขึ้น และจะนำไปสู่ผลกระทบทุกมิติ ทั้งเรื่องสุขภาพ เศรษฐกิจ และสังคม
.
สิ่งที่ต้องติดตามดูอย่างใกล้ชิดคือ ทั่วโลกขณะนี้มีการระบาดที่ชะลอตัวลงชัดเจน แต่จะเห็นได้ว่า ประเทศต่าง ๆ ส่วนใหญ่ที่ได้เรียนรู้จากสงครามนี้มาเกือบสองปี มักจะเลือกตาเดินแบบระมัดระวังในการเปิดใช้ชีวิตและเปิดประเทศ โดยเน้นให้จัดการควบคุมโรคให้มีจำนวนการติดเชื้อลดลงให้ได้ และเน้นการใช้วัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูง และฉีดให้ครอบคลุมประชากรส่วนใหญ่ในสังคมเสียก่อน
.
บางประเทศฉีดครอบคลุมไปนานกว่า 6 เดือนก็เจอระบาดซ้ำจนต้องมาฉีดเข็มกระตุ้นซ้ำเพราะความรู้ปัจจุบันชี้ให้เห็นว่าระดับภูมิคุ้มกันจะค่อย ๆ ลดลงตามเวลาที่ผ่านไป หลังฉีดกระตุ้นก็พบว่า สามารถคุมโรคระบาดได้ดีขึ้นชัดเจน เช่น อิสราเอล สหรัฐอาหรับอีมิเรตส์
ไทย ยังเสี่ยงที่จะ “เปิดประเทศ”มีเพียงบางประเทศเท่านั้นที่พยายามประกาศว่า จะใช้ชีวิตท่ามกลางโรคระบาด หรือ Living with COVID-19 เช่น สิงคโปร์ ไทย เป็นต้น โดยล่าสุดก็เห็นชัดเจนว่า สิงคโปร์ประสบการระบาดซ้ำที่รุนแรงขึ้นกว่าเดิมมาก แม้ได้รับวัคซีนกันไปกว่า 80% ของประชากรก็ตาม
.
หันมามองไทยเรา จำเป็นต้องประเมินและยอมรับความจริงว่า หลายเรื่องยังไม่พร้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานการณ์ระบาดที่เป็นหลักหมื่นเช่นนี้ และเรื่องวัคซีนที่ไม่เพียงพอไม่ครอบคลุม จึงเสี่ยงเกินไปที่จะเปิดเมือง เปิดประเทศ หากเดินพลาดจะมีโอกาสส่งผลกระทบยาวนานและหนักหนาสาหัส
.
สำหรับประชาชนอย่างพวกเราทุกคน ขอให้ใช้ชีวิตอย่างมีสติ ป้องกันตัวเสมอ
ใส่หน้ากากสองชั้น ชั้นในเป็นหน้ากากอนามัย ชั้นนอกเป็นหน้ากากผ้า สำคัญมาก ด้วยรักและห่วงใย