‘หมอประสิทธิ์’ เผยหลายประเทศยังไม่ไฟเขียวโควิดเป็นโรคประจำถิ่น

ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์โควิด-19 ในไทยที่จะเข้าสู่โรคประจำท้องถิ่นในเดือนมิ.ย.ว่าสถานการณ์โควิดทั่วโลกจะเห็นว่าประเทศต่างๆ เปิดประเทศจนเกือบจะไม่ต้องพูดถึงว่าโรคระบาดหรือโรคประจำถิ่นแล้ว เพราะหากเราพูดถึงว่า โรคประจำถิ่นหรือไม่ ก็ต้องมาพูดถึงเกณฑ์ต่างๆ

ดังนั้น แต่ละประเทศจึงปรับมาตรการลดลง อย่างบางประเทศไม่ตรวจวัคซีนพาสปอร์ตแล้ว ไม่พูดถึงเรื่องการตรวจหาเชื้อ จึงแสดงให้เห็นทิศทางทั่วโลกว่า โควิดสายพันธุ์โอไมครอนที่ผู้ติดเชื้อไม่มีอาการรุนแรง รวมถึงการฉีดวัคซีนโควิดทั่วโลกจำนวนมากแล้ว “หลายประเทศเปิดกันหมด โดยไม่ต้องประกาศเป็น Endemic แล้ว ดังนั้นหากถามก็มองว่าในวันที่ 1 มิ.ย. คนไทยไม่ต้องกรอกไทยแลนด์พาสแล้ว จริงๆ สัญญาณก็ออกมาว่าจะเปิดประเทศ ส่วนวัคซีนเข็มที่ 3 ฉีดครอบคลุมประมาณ 40% นิดๆ จริงๆ อยากให้ถึง 50% แต่ถ้าจะเปิดกลางเดือนมิ.ย. วัคซีนก็น่าจะใกล้เคียง ถึงตอนนั้นก็น่าจะเซฟพอ หลักสำคัญคือคนกลุ่มเสี่ยง 608 ยังต้องเร่งฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นต่อ” ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าว

สำหรับกรณีถอดหน้ากากอนามัย ในช่วงเดือน มิ.ย.นี้ เช่นการสวมในพื้นที่โล่ง คนไม่แออัด และไม่มีความเสี่ยง มองว่าประเทศทางยุโรปเริ่มดำเนินการเช่นนี้แล้ว คนที่เดินตามท้องถนนทั่วไป ที่คาดว่าได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นแล้ว สวมหน้ากากเพียง 5% ส่วนเมื่อเข้าในอาคารก็มีจำนวนหนึ่งสวม จำนวนหนึ่งไม่สวม ทั้งนี้ การนำตัวเลขติดเชื้อมาประเมินสถานการณ์จึงมีผลน้อยลง เนื่องจากหลายประเทศไม่ได้ตรวจแล้ว แต่มาดูเรื่องการเสียชีวิต โดยหลายประเทศที่เริ่มถอดหน้ากากอนามัย ก็ยังไม่เกิดเหตุการณ์ว่าผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น

“ตอนนี้โลกสวิงไปอีกทางแล้ว แต่สำหรับไทยก็ขอให้ติดตามข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข แต่หากจะทำเหมือนประเทศอื่นๆ ก็ต้องระวัง เพราะต่างประเทศฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเยอะกว่าเรา โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่ต้องฉีดให้ได้มากพอสมควร เพื่อลดความอันตราย แต่หากเราจะดำเนินการเรื่องนี้ก็ต้องเข้าที่ประชุมศบค.พิจารณาก่อน” ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าว