หอการค้าฯดันขยะเป็นวาระแห่งชาติ

นางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และกรรมการขับเคลื่อน Circular Economy หอการค้าไทย เปิดเผยว่า หอการค้าไทยได้มีการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการระดมความคิดเห็นของคณะกรรมการขับเคลื่อน Circular Economy หรือเศรษฐกิจหมุนเวียน และเครือข่าย ที่มีสมาชิกรวมกว่า 120,000 รายทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อร่วมกันกำหนดจุดยืนขับเคลื่อน Circular Economy ให้เป็นรูปธรรม โดยมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพของการจัดการขยะพลาสติกและขยะอาหารแบบบูรณาการ ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจและความยั่งยืนของประเทศ
.
โดยผลการประชุมได้กำหนดแผนการดำเนินงานในการขับเคลื่อน Circular Economy ได้แก่ การรณรงค์ให้ความรู้ เปลี่ยน Mindset โดยเน้น 2 กลุ่มเป้าหมาย คือ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ในการแยกขยะ การลดขยะอาหารในภาคการค้าและบริการ และการนำอาหารเหลือที่สามารถบริโภคได้บริจาคผู้ขาดแคลน พร้อมทั้งจะเสนอแนะให้ภาครัฐร่วมป้องกันและแก้ไขปัญหาขยะทะเลให้มากยิ่งขึ้น โดยจะเสนอให้รัฐบาลประกาศเรื่องการแก้ไขปัญหาขยะเป็นวาระแห่งชาติ
.
นอกจากนี้จะมีการออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับปัญหาขยะ เช่น การเลิกใช้โฟม การเก็บเงินหากใช้ถุงพลาสติก และการมัดจำขวด รวมทั้งภาครัฐและเอกชนต้องร่วมกันรณรงค์ลดการสร้างขยะ พร้อมส่งเสริมการแยกขยะ โดยเชื่อว่าจะช่วยให้ปัญหาขยะทะเลในประเทศไทยลดน้อยลงได้อย่างแน่นอน
.
นอกจากนี้ หอการค้าไทยได้มอบหมายให้สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ ทีดีอาร์ไอ) ศึกษาที่มาของขยะทะเล ซึ่งจากผลการศึกษาพบว่า แหล่งที่มาที่สำคัญในไทย ประกอบด้วย ชุมชนหรือร้านค้าที่อยู่บริเวณริมแม่น้ำและริมชายฝั่ง การท่องเที่ยวริมชายหาด และขยะจากหลุมฝังกลบที่จัดการไม่ถูกต้อง รวมถึงจากเรือประมง และขยะจากประเทศเพื่อนบ้าน
.
โดยประเภทขยะที่พบมากที่สุดคือ ถุงพลาสติก กล่องโฟม และถุงก๊อบแก๊บ ซึ่งไทยถูกจัดอยู่ในลำดับที่ 6 ของประเทศที่ทิ้งขยะลงสู่ทะเลมากที่สุด รวมทั้งยังมีขยะอาหารมากถึง 60% ของขยะมูลฝอย หากจัดการแยกขยะอาหารไม่ถูกต้องก็จะส่งผลกระทบต่อการจัดการขยะโดยรวม ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกคนจะต้องช่วยกัน