หอการค้าเปิดชื่อธุรกิจ 10 ดาวเด่น – ดาวร่วงปี 2563

986
0
Share:

นางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเปิดเผยถึงธุรกิจดาวเด่น และดาวร่วงปี 2563
.
โดย 10 อันดับธุรกิจเด่นได้แก่
.
1 ธุรกิจ แพลตฟอร์ม (ธุรกิจตัวกลางหรือตลาดกลางทางด้านอิเล็กทรอนิกส์) คะแนน 95.5
.
2 ธุรกิจ e-commerce (ธุรกิจที่ทาการซื้อขายผ่านอิเล็กทรอนิกส์) / ธุรกิจเทคโนโลยี และเทคโนโลยีสารสนเทศ และอุปกรณ์ รวมทั้งผู้ให้บริการโครงข่าย 94.8
.
3 ธุรกิจเกมธุรกิจพัฒนา application 93.1
.
4. ธุรกิจขนส่งโลจิสติกส์ 92.5
.
5. ธุรกิจประกันภัย ประกันชีวิต / ธุรกิจบริการทางการแพทย์และความงาม 91.4
.
6 ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม / ธุรกิจบน Street food 88.9
.
7 ธุรกิจเกี่ยวกับผู้สูงอายุ 87.1
.
8 ธุรกิจด้าน fintech และการชำระเงินผ่านระบบเทคโนโลยี / ธุรกิจพลังงาน 86.5
.
9 ธุรกิจก่อสร้างและโครงสร้างพื้นฐาน / ธุรกิจที่ปรึกษาด้านกฎหมาย/บัญชี / ธุรกิจความเชื่อ 84.4
.
10 ธุรกิจเกี่ยวกับทางด้านท่องเที่ยว ธุรกิจ Hostel modern tourism และ lifestyle tourism / ธุรกิจเครื่องสำอางและครีมบำรุงผิว 84.4
.
ส่วน 10 ธุรกิจดาวร่วงปี 2563
.
1. ธุรกิจเช่าหนังสือ // 2.ธุรกิจผลิตโทรศัพท์พื้นฐาน และเครื่องโทรสาร // 3. ธุรกิจร้านให้บริการอินเตอร์เน็ต // 4. ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ และวารสาร // 5. ธุรกิจผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่ใช้แรงงานเยอะและขายในประเทศ / ธุรกิจหัตถกรรม และเฟอร์นิเจอร์ไม้แบบเดิมที่ไม่ได้มีการปรับตัว)
.
6. ธุรกิจการค้าแบบดั้งเดิม // 7.ธุรกิจคนกลาง // 8. ธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์ความจำ Storage media ก็คือ CDs, DVDs, Blu Ray Discs, External Hard Drives, Memory Cards // 9. ธุรกิจดังเดิมไม่มีดีไซน์ และใช้แรงงานเยอะ อาทิ เฟอร์นิเจอร์ และของเล่น และ 10. ธุรกิจสถานศึกษาเอกชน และธุรกิจร้านถ่ายรูป
.
ส่วนธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูงในปี 2563 หากเป็นกลุ่มที่มีเสี่ยงสูง จะเป็นธุรกิจร้านกาแฟ ที่ทำเลไม่ดี ไม่มีแฟรนไชส์ และขนาดเล็ก ธุรกิจร้านชานมไขมุกที่ทำเลไม่ดี
.
ด้านธุรกิจที่มีความเสี่ยงปานกลางปี 2563 ได้แก่ธุรกิจคลินิกเสริมความงาม ธุรกิจเครื่องสาอาง และอาหารเสริม ธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ทำเลไม่ดี ธุรกิจร้านอาหารที่พึ่งเปิดและขนาดเล็ก
.
ส่วนปัจจัยที่บั่นทอนมาจากความไม่แน่นอนของสถานการณ์เศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะความเสี่ยงในเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน รวมทั้ง Brexit และเศรษฐกิจจีนมีโอกาสขยายตัวต่ำกว่า 6% สถาบันการเงินของต้องใช้มาตรฐานทางบัญชี TFRS 9ซึ่งจะทำให้มีความระมัดระวังในการให้สินเชื่อ และค่าเงินบาทแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง และแข็งค่ามากกว่าสกุลเงินหลักอื่นๆโดยคาดว่าจะแข็งค่าประมาณ 29.75 -30.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ รวมถึงความไม่แน่นอนทางการเมืองส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ หนี้เสีย (NPL) ของสถาบันการเงิน และการเพิ่มความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ ภัยธรรมชาติ ต้นทุนในการดำเนินธุรกิจสูงขึ้นจากการขึ้นค่าแรงขั้นต่า การจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง