หอการค้าไทยเสนอให้เอกชนจ้างงานเด็กจบใหม่ พร้อมหักภาษีได้ 2 เท่า

นายกลินท์ สารสิน ประธานหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เตรียมจัดทำข้อเสนอต่อคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบศ. จำนวน 3 ข้อเสนอ
.
แนวทางที่ 1 เพิ่มการจ้างงานเพื่อลดอัตราการว่างงาน และพัฒนาฝีมือแรงงานให้มีคุณภาพมากขึ้น โดยรัฐจะเป็นผู้จ้างงานเพื่อให้แรงงานมีรายได้ นำไปใช้จ่ายค่าครองชีพ และจะเพิ่มการพัฒนาทักษะ และประสบการณ์ นอกจากให้ภาครัฐช่วยจ้างงานเด็กจบใหม่แล้ว อาจจะเสนอให้เอกชนสามารถเข้าร่วมโครงการจ้างงานเด็กจบใหม่ด้วย โดยมีสัญญาจ้าง 1 ปี และสามารถนำมาหักภาษีได้ 2 เท่า เพื่อช่วยให้มีงานทำและมีประสบการณ์ โดยจะเน้นที่เด็กจบใหม่ 1-2 ปีเท่านั้น
.
แนวทางที่ 2 รัฐช่วยลดภาระรายจ่ายสำหรับประชาชน โดยเฉพาะคนที่กำลังสร้างครอบครัวเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ แต่ประสบปัญหาจากโควิด มีรายจ่าย เช่น การผ่อนบ้าน ซึ่งแนวทางขอให้รัฐรับภาระดอกเบี้ยให้งวดเดือน กันยายน-ธันวาคม 2563 สำหรับผู้กู้ซื้อบ้านหลังแรก ส่วนวงเงินกู้เท่าไรแล้วแต่จะกำหนด รวมถึงขยายการใช้มาตรการลดค่าใช้จ่ายให้ประชาชน เช่น สาธารณูปโภค ค่าโทรศัพท์ ค่าอินเตอร์เน็ต ฯลฯ โดยเฉพาะค่าไฟฟ้า
.
ส่วนแนวทางที่ 3 ขอให้รัฐช่วยอุดหนุนเงินให้ธุรกิจสามารถคงสภาพการจ้างงานได้ คือ ขอให้ขยายระยะเวลามาตรการเพิ่มสิทธิประโยชน์การว่างงานแบบสุดวิสัย สามารถรับเงิน 62% (ประกันสังคมมาตรา 33) และขอขยายเวลาลดการจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมของนายจ้างและลูกจ้าง จาก 3 เดือน เป็น 6 เดือน พร้อมทั้งเร่งรัดกระทรวงแรงงาน พิจารณาออกมาตรการให้ภาคธุรกิจสามารถจ้างงานรายชั่วโมง ค่าแรง 40-41 บาทต่อชั่วโมง ไม่ต่ำกว่า 4 ชั่วโมงและไม่เกิน 8 ชั่วโมงต่อวันแทนที่จะต้องจ้างแบบเต็มวันแบบปัจจุบัน และขอขยายระยะเวลาพักชำระหนี้ เพิ่มถึงสิ้นปี 2564 เพราะเศรษฐกิจอาจต้องใช้ระยะเวลาฟื้นฟูกลับสู่ภาวะปกติ