หักปากกาเซียนเมื่อเงินเฟ้อสหรัฐสิงหาคมพุ่งแตะ 8.3% ขึ้นต่อเนื่องแถมเกินคาดหมาย

กระทรวงแรงงาน สหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 8.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้นอีก 0.1% เมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคม สาเหตุจากถึงแม้ว่าราคาน้ำมันสำเร็จรูปตามปั้มน้ำมันในสหรัฐอเมริกาจะลดลงต่อเนื่องจากสถิติที่เคยพุ่งทะยานขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์กว่า 5 ดอลลาร์สหรัฐต่อแกลลอน แต่ราคาค่าเช่าและราคาอาหารกลับเพิ่มสูงขึ้นในอัตราที่มากกว่าราคาน้ำมันที่ลดลง

อัตราเงินเฟ้อในเดือนสิงหาคมในแง่รายเดือน ที่เพิ่มขึ้นมา 0.1% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้านี้ ได้กลายเป็นอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นเกินความคาดหมาย เนื่องจากบรรดานักเศรษฐศาสตร์ นักวิเคราะห์ และนักลงทุนล้วนประเมินว่าเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกาเลยจุดสูงสุด นอกจากนี้ ยังคาดว่าจะลดลงราว 0.1% อย่างไรก็ตาม เมื่อคิดอัตราเงินเฟ้อในแง่รายปี หรือราย 12 เดือน ซึ่งอัตราเงินเฟ้อดังกล่าวขึ้นมาเป็น 8.3% นั้น เป็นอัตราที่ลดลงจากเดือนกรกฎาคมที่เคยขึ้นไปสูงถึง 8.5% ก่อนหน้านั้นในเดือนมิถุนายน เงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกาพุ่งขึ้นถึงระดับ 9.1% ทำสถิติสูงสุดในรอบ 40 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปี 1981 เป็นต้นมา

ปัจจุบัน อัตราเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกาอยู่เหนือระดับ 8% ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน ซึ่งนับเป็นภาวะเงินเฟ้อที่ยืนเหนือระดับ 8% ที่ยาวนานที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา

ด้านอัตราเงินเฟ้อขั้นพื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมราคาอาหารและพลังงานในเดือนสิงหาคม พบว่า ในแง่รายเดือน เงินเฟ้อขั้นพื้นฐานขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 0.6% ซึ่งไม่เพียงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากเดือนกรกฎาคมที่ระดับ 0.3% แต่ยังเพิ่มสูงขึ้นเหนือคาดหมายที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.3% นอกจากนี้ ในแง่ราย 12 เดือน หรือรายปี พบว่า เงินเฟ้อขั้นพื้นฐานในเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้นมาแตะที่ระดับ 6.3% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันในปีผ่านมา และยังเพิ่มสูงกว่าในเดือนกรกฎาคมที่เคยอยู่ที่ระดับ 5.9%

สถานการณ์เงินเฟ้อทั่วไปและขั้นพื้นฐานเดือนสิงหาคมดังกล่าว ทำให้นักลงทุนกลับมาวิตกกังวลมากขึ้นครั้งใหม่ว่าธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟด จะปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นสูงถึง 0.75% ในการประชุมวันที่ 20-21 กันยายนนี้ เฟดได้ปรับขึ้นดอกเบี้ยดังกล่าวนับตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นมาจากระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ใกล้ 0% ขึ้นมาเป็นระหว่าง 2.25% ถึง 2.50% ในปัจจุบัน โดยเฉพาะในการประชุม 2 ครั้งสุดท้าย เฟดปรับเพิ่มดอกเบี้ยระยะสั้นสูงถึง 0.75% ในเดือนมิถุนายน และกรกฎาคม ทำสถิติการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นที่แรงที่สุด และปรับขึ้นถึง 0.75% ถึง 2 ครั้งติดต่อกันเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์