อนามัยโลกซัดทั่วโลกผ่อนมาตรการล็อกดาวน์ โควิด-19 กลายพันธุ์อันตรายขึ้นกว่าเดิม

นายทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก หรือ ดับเบิลยูเอชโอ กล่าวแถลงว่า แม้ตอนนี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จะพ้นจากภาวะวิกฤตไปแล้ว แต่ก็ยังวางใจไม่ได้ เนื่องจากยังมีการแพร่ระบาดในหลายพื้นที่ทั่วโลก โดยเฉพาะที่ประเทศจีน ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อกลับมาเพิ่มเป็นจำนวนมากในตอนนี้

ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก กล่าวเตือนด้วยว่า การที่หลายประเทศทั่วโลกผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ เป็นการสร้างเงื่อนไขที่สมบูรณ์แบบให้เชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ ซึ่งทำให้เกิดโรคโควิด-19 สามารถกลายพันธุ์ได้อีกเรื่อย ๆ และเชื้อจะยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น

สาธารณสุขนครลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า ขอแนะนำเป็นอย่างยิ่งให้ประชาชนสวมใส่หน้ากากอนามัยภายในอาคาร หรือในที่ร่ม สาเหตุจากยอดติดโรคระบาดโควิด-19 รายใหม่ พุ่งสูงขึ้น 44% เมื่อเปรียบเทียบจากสัปดาห์ที่แล้ว

สาธารณสุขนครนิวยอร์ค รัฐนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า ยอดติดโรคระบาดโควิด-19 รายใหม่ในสัปดาห์นี้พุ่งขึ้น 6,207 ราย พุ่งสูงขึ้น 58% เมื่อเปรียบเทียบจากสัปดาห์ที่แล้ว ทำสถิติสูงสุดในรอบ 4 เดือน

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคระบาดแห่งชาติสหรัฐอเมริกา หรือ CDC รายงานว่า ชาวอเมริกันป่วยด้วยโรคระบาดโควิด-19 ถึงขั้นต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นถึง 36,354 ราย ทำสถิติสูงสุดในรอบ 3 เดือนกว่า

ทั้งนี้ ประชากรกว่าร้อยละ 90 ทั่วโลก มีภูมิต้านทานโรคโควิด-19 แล้ว ทั้งในรูปแบบของการฉีดวัคซีนต้านโรคโควิด-19 หรือ ป่วยติดเชื้อและรักษาจนหายเป็นปกติ สำหรับยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกตอนนี้ อยู่ที่กว่า 648 ล้านคน และเสียชีวิตแล้วราว 6.6 ล้านคน