อย.สหรัฐพบ 100 รายมีภาวะระบบเส้นประสาทผิดปกติ หลังฉีดวัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน

381
0
Share:

องค์การอาหารและยา สหรัฐอเมริกา หรือเอฟดีเอ เปิดเผยว่า วัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน อาจมีความเป็นไปได้ในการทำให้เกิดภาวะระบบการทำงานของประสาทผิดปกติ ส่งผลให้ภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นไปทำลายเซลล์ประสาทในร่างกาย หรือเกิดภาวะอาการที่เรียกว่ากิลแลง-บาร์เร (Guillan Barre Syndrome) ซึ่งเป็นผลจากการตรวจพบผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนยี่ห้อดังกล่าวจำนวน 100 รายจากทั้งหมดราว 12.8 ล้านรายที่ฉีดวัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน

อย.สหรัฐ เปิดเผยต่อไปว่าอาการกิลแลง-บาร์เร (Guillan Barre Syndrome) จัดอยู่ในภาวะภูมิคุ้มกันแปรปรวนที่พบได้ค่อนข้างยาก เมื่อเกิดอาการดังกล่าวขึ้น ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายจะทำงานผิดปกติ และผลิตสารภูมิคุ้มกันหรือแอนติบอดีออกมาทำลายเซลล์ประสาทของระบบประสาทรอบนอกซึ่งทำให้เกิดการอักเสบและสูญเสียการทำงาน ส่งผลให้ผู้ป่วยรู้สึกอ่อนแรง มึนงง เกิดเหน็บชาตามร่างกายในระยะแรก และหากเกิดอาการอาจรุนแรงมากขึ้น อาจส่งผลกลายเป็นอัมพาต

สำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสันทั้ง 100 ราย นั้น อย.สหรัฐ กล่าวว่าตรวจพบอาการกิลแลง-บาร์เร ที่เริ่มเห็นอาการภายใน 42 วันหลังจากได้รับการฉีดวัคซีนครบโดส หรือ 1 เข็ม อย่างไรก็ตาม โอกาสหรือความเป็นไปได้ที่จะพบอาการมีต่ำมาก หรือ 0.000008% โดยประเมินจากจำนวนที่พบ 100 รายจากจำนวนผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน 12.8 ล้านราย

อย่างไรก็ตาม อย.สหรัฐได้แจ้งเตือนและบันทึกข้อมูลดังกล่าวในระบบการรายงานภาวะผลข้างเคียงผิดปกติจากการฉีดวัคซีน หรือ VARS ของสหรัฐอเมริกา สำหรับอาการข้างเคียงอื่นๆที่พบ ได้แก่ ก้าวเดิน พูดจา เคี้ยว และกลืนอาหารรวมถึงน้ำดื่มลำบากมากขึ้น เกิดภาพซ้อนเวลามอง เป็นต้น

อย.สหรัฐ เปิดเผยต่อไปว่า ในแต่ละปีในสหรัฐ จะมีผู้ป่วยที่ตรวจพบอาการกิลแลง-บาร์เร (Guillan Barre Syndrome)ราว 3,000-6,000 ราย ผู้ป่วยโดยส่วนใหญ่จะให้ได้เองภายหลัง

ทั้งนี้ บริษัท จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน เปิดเผยต่อมาว่า ได้มีการพูดคุยในภาวะผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้ยากจากอาการดังกล่าวกับอย.สหรัฐ หลังได้รับทราบการแจ้งเตือนจากอย.สหรัฐ