‘อีลอน มัสค์’รวยพุ่งอันดับ 3 โลก

อีลอน มัสค์ มหาเศรษฐี ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอบริษัท เทสล่า ค่ายรถยนต์ซุปเปอร์คาร์ไฟฟ้า หรือรถอีวีชื่อดังระดับโลก มีความร่ำรวยมูลค่าพุ่งขึ้นถึง 115,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 3.69 ล้านล้านบาท ส่งผลให้อีลอน มัสค์ มีความร่ำรวยเพิ่มขึ้นเป็นอันดับ 3 ของโลก ขณะที่นายมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งและซีอีโอเฟสบุ๊กมีมูลค่าความร่ำรวยอยู่ที่ 110,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 3.55 ล้านล้านบาท หล่นลงมาอยู่อันดับที่ 4 ของโลก
.
สาเหตุจากในคืนที่ผ่านมา ราคาหุ้นของเทสล่ามีความเคลื่อนไหวที่คึกคัก และปรับเพิ่มสูงขึ้นตลอดทั้งวัน โดยมีราคาพุ่งขึ้น 12% หลังจากจำนวนหุ้นของเทสล่าเพิ่มขึ้นมากในการซื้อขายในตลาด ซึ่งเป็นผลจากนโยบายแตกจำนวนหุ้น 5 ต่อ 1 หุ้น เพื่อให้ราคาหุ้นลดลงมาเป็นที่สนใจของนักลงทุนมากขึ้น เมื่อปิดตลาดหุ้น ราคาหุ้นเทสล่าอยู่ที่ 444.16 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราวหุ้นละ 14,213 บาท นับตั้งแต่ต้นปีนี้ ราคาหุ้นเทสล่าพุ่งทะยานเกือบ 500% ถึงสิ้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านไป ที่สำคัญ หุ้นเทสล่าเป็นที่สนใจของนักลงทุนรายย่อยหน้าใหม่ทั่วโลก เช่น อเมริกัน และเกาหลีใต้ โดยในเดือนสิงหาคมที่ผ่านไป มีนักลงทุนรายย่อยเข้าถือหุ้นเทสล่าสูงถึง 40,000 บัญชี ในเวลาเพียง 4 ชั่วโมงในช่วงการซื้อขายหุ้นเทสล่า นักลงทุนชาวเกาหลีใต้มีสัดส่วนถือหุ้นในเทสล่าเพิ่มเป็น 1% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของบริษัทเทสล่า
.
ในระยะเวลา 8 เดือนผ่านมานั้น มหาเศรษฐีอิลอน มัสค์ ซึ่งมีอายุ 49 ปี ได้มีความร่ำรวยพุ่งสูงมากขึ้น 87,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 2.81 ล้านล้านบาท ส่วนหนึ่งมาจากการได้รับผลตอบแทนที่สูงอย่างมากถึง 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1.6 ล้านล้านบาทในการบริหารจากคณะกรรมการบริษัทเทสล่า จากผลประกอบการที่เข้าเป้าหมายของบริษัทเทสล่า
.
ทั้งนี้ บริษัทเทสล่ามีมูลค่ารวมถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2563 มีมูลค่า 464,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 14.85 ล้านล้านบาท ซี่งมากกว่าบริษัท วอล-มาร์ท เจ้าของห้างขายปลีกวอล-มาร์ท ในสหรัฐที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในสหรัฐในแง่รายได้