อีสานโพลเผยดัชนีเชื่อมั่นเศรษฐกิจอีสานแย่ลง ต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 12

602
0
Share:

ศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน (ECBER) หรือ อีสานโพล คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นเผยผลสำรวจเรื่อง “ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจอีสานไตรมาส 2/2563” พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจอีสานไตรมาส 2/2563 เท่ากับ 56.0 ซึ่งต่ำกว่า 100 เป็นไตรมาสที่ 12 ติดต่อกัน และคาดว่าไตรมาสถัดไป (ก.ค. – ก.ย. 2563) จะแย่ลงกว่าเดิม ในส่วนคะแนนด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลได้ 29.6 จากเต็ม 100 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนที่ได้ 25 จากการที่ประชาชนได้รับเงินเยียวยาและความช่วยเหลืออื่นๆ
.
ขณะที่มาตรการทางเศรษฐกิจที่ต้องการให้รัฐบาลทำ 3 อันดับแรกคือ จ่ายเงินเยียวยาต่ออีก 1 เดือน //จัดหางานให้คนตกงาน และลดภาษีต่างๆ นอกจากนี้หากมีเลือกตั้งใหม่กลุ่มตัวอย่างอีสานต้องการคุณหญิงสุดารัตน์มาเป็นนายกฯ เพื่อกอบกู้เศรษฐกิจ มากที่สุด ตามมาด้วยพลเอกประยุทธ์ และพิธา ลิ้มเจริญรัตน์
.
โดยดัชนีเศรษฐกิจและการค้าของอีสานไตรมาส 2/2563 เท่ากับ 46.1 หมายความว่า เศรษฐกิจและการค้าของอีสาน แย่ลงจากไตรมาสที่แล้วประมาณครึ่งหนึ่ง
.
ดัชนีรายได้ครัวเรือนไตรมาส 2/2563 เท่ากับ 53.1 หมายความว่า รายได้ครัวเรือน ลดลงจากไตรมาสที่แล้วประมาณครึ่งหนึ่ง
.
ดัชนีสภาพคล่องการเงินครัวเรือนไตรมาส 2/2563 เท่ากับ 51.4 หมายความว่า สภาพคล่องการเงินครัวเรือน แย่ลงจากไตรมาสที่แล้วประมาณครึ่งหนึ่ง
.
ดัชนีการใช้จ่ายเพื่ออุปโภคและบริโภคของครัวเรือนไตรมาส 2/2563 เท่ากับ 73.3 หมายความว่า การใช้จ่ายเพื่ออุปโภคและบริโภคของครัวเรือน ลดลงจากไตรมาสที่แล้วประมาณ 1 ใน 4
.
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจอีสานไตรมาส 2/2563 เท่ากับ 56.0หมายความว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจอีสานลดลงจากไตรมาสที่แล้วเกือบครึ่งหนึ่ง
.
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจอีสานคาดการณ์ไตรมาส 3/2563 เท่ากับ 64.3 (ต่ำกว่า 100) หมายความว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจอีสาน 3/2563 จะมีแนวโน้มแย่ลงต่อเนื่องเมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2563
.
เมื่อให้กลุ่มตัวอย่างประเมินผลงานรัฐบาลด้านเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา พบว่า ได้คะแนน 29.6 เต็ม 100 ซึ่งเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับการสำรวจในไตรมาสที่แล้วซึ่งได้คะแนน 25.0 ทั้งนี้จากการที่ประชาชนได้รับเงินเยียวยาจากผลกระทบโควิดและมาตรการช่วยเหลืออื่นๆ ขณะที่ผลงานโดยรวมของรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมาได้คะแนนเพิ่มเป็น 30.6 เต็ม 100 เมื่อเทียบกับการสำรวจในไตรมาสที่แล้วซึ่งได้คะแนน 25.2 จากการที่รัฐสามารถควบคุมการระบาดของไวรัสโควิดได้
.
เมื่อสอบถามต่อว่า “มาตรการทางเศรษฐกิจที่ต้องการให้รัฐบาลทำมากที่สุด” พบว่า อันดับหนึ่ง ร้อยละ 29.2 ต้องการให้รัฐบาลจ่ายเงินเยียวยาต่ออีก 1 เดือน รองลงมา ร้อยละ 19.0 จัดหางานให้คนตกงาน ตามมาด้วย ร้อยละ 15.5 ขอให้ลดภาษีต่างๆ ร้อยละ 10.4 ต้องการให้ขยายเวลาพักชำระหนี้ ร้อยละ 7.1 ลดดอกเบี้ยเงินกู้ลงอีก ร้อยละ 6.5 ต้องการแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ร้อยละ 4.7 ขอให้ช่วย SME และภาคท่องเที่ยว ร้อยละ 3.5 ต้องการงานก่อสร้างตามชุมชน ร้อยละ 2.4 ขอให้ช่วยแก้หนี้นอกระบบ และร้อยละ 1.7 ต้องการให้มีการลงทุนโครงการขนาดใหญ่
.