เกาหลีใต้ใช้ไฟเซอร์เป็นวัคซีนหลักของประเทศจากนี้ไป รับชายเกาหลีใต้เสียชีวิตจากการฉีดวัคซีนเป็นรายแรก

536
0
Share:
กระทรวงสาธารณสุข สาธารณสุขเกาหลีใต้ ประกาศปรับเกณฑ์อายุของประชาชนที่จะเข้ารับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ยี่ห้อแอสตร้าเซนเนก้า โดยปรับเพิ่มอายุจากเดิมไม่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 แอสตร้าเซเนก้าให้ประชาชนที่มีอายุต่ำกว่า 30 ปี ขยับเพิ่มเป็น 50 ปี นอกจากนี้ ประกาศนำวัคซีนไฟเซอร์มาเป็นวัคซีนหลักจากนี้ไป แทนวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าด้วย
.
ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคระบาดแห่งชาติเกาหลีใต้ หรือ KCDC นายจอง อึนคยอง เปิดเผยเพิ่มเติมว่า สำหรับประชาชนชาวเกาหลีใต้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปนั้นไม่ต้องกังวล เนื่องจากคุณประโยชน์ของวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้ามีมากมายมากกว่าความเสี่ยงที่อาจจะเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันอย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุข เกาหลีใต้ กล่าวเพิ่มเติมว่า ประชาชนที่มีอายุต่ำกว่า 50 ปีลงมา ซึ่งได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ยี่ห้อแอสตร้าเซนเนก้าเป็นเข็มแรกไปแล้วนั้น ในการฉีดเข็มที่ 2 จะถูกเปลี่ยนเป็นวัคซีนของไฟเซอร์แทน
.
ในช่วงที่ผ่านมา การฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในเกาหลีใต้ต้องพบกับอาการข้างเคียงที่อันตราย และพบได้ยาก กระทรวงสาธารณสุขเกาหลีใต้ รายงานว่า ได้พบผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ และภาวะเกล็ดเลือดต่ำ มีทั้งหมด 2 ราย ซึ่งทั้ง 2 ราย เป็นผู้ชายมีอายุเกิน 30 ปี ได้รับการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเป็นเข็มแรก
.
กระทรวงสาธารณสุข เกาหลีใต้ แถลงยอมรับเมื่อวันจันทร์ที่ 23 มิถุนายนที่ผ่านมาว่า มี 1 รายเสียชีวิตจากผลของการฉีดวัคซีนเมื่อวันพุธที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งผู้เสียชีวิตดังกล่าวได้รับการฉีดวัคซีนเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยมีอาการปวดหัว คลื่นไส้อย่างรุนแรงเป็นเวลา 9 วันหลังได้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 จากนั้นเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจนกระทั่งมีอาการข้างเคียงที่รุนแรง และเสียชีวิต เหตุการณ์ดังกล่าว นับเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลเกาหลีใต้ยอมรับว่ามีสาเหตุมาจากวัคซีนที่ฉีดให้กับผู้เสียชีวิตรายดังกล่าว
.
ด้านรัฐบาลเกาหลีใต้ กล่าวว่าการปรับเปลี่ยนนโยบายวัคซีนหลักในครั้งนี้ จะไม่มีผลกระทบต่อแผนการกระจายวัคซีนในอนาคต เนื่องจากวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าที่รัฐบาลเกาหลีใต้สั่งซื้อมา 20 ล้านโดส ได้ถูกใช้ไปเกือบหมดแล้ว โดยรัฐบาลเกาหลีใต้นำวัคซีนไฟเซอร์เข้ามาใช้งานเป็นหลักแทน นับตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไป
.
ทั้งนี้ ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาถึงวันนี้ 1 กรกฎาคม 2564 พบผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 762 ราย ส่งผลยอดติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 157,723 ราย อยู่อันดับที่ 84 ของโลก ส่วนผู้เสียชีวิตรายใหม่มีจำนวน 3 ราย รวมเสียชีวิตสะสมเป็น 2,021 ราย