เงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งแข็งค่ารอบ 2 ปี ทะยานกว่า 6% ตั้งแต่ต้นปีนี้
ตลาดอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินในเอเชีย และยุโรป รายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเทียบสกุลเงินสำคัญอื่นๆของโลก ได้ปรับแข็งค่าทำสถิติสูงสุดในรอบ 2 ปีผ่านมา โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับเงินเหรียญยูโร พบว่า ค่าเงินยูโรร่วงอ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 2 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี 2020 เป็นต้นมา
สำหรับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐทะยานแข็งค่าถึง 6.5% นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 มาถึงปัจจุบัน ที่สำคัญ ในเดือนเมษายน ขณะนี้เงินดอลลาร์สหรัฐทะยานแข็งค่าถึงอีก 3.65% ทำสถิติค่าเงินดอลลาร์สหรัฐรายเดือนที่แข็งค่ามากที่สุดในรอบ 7 ปีผ่านมา หรือนับตั้งแต่มกราคม ปี 2015
สำหรับค่าเงินยูโรเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐในวันนี้ ปรากฎว่า ร่วงลงแตะที่ระดับ 1.068 ต่อดอลลาร์สหรัฐ ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 2 ปี สอดรับกับค่าเงินหยวนเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงมาอยู่ที่ระดับ 6.583 ต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งก่อนหน้านี้ เงินหยวนถูกถล่มเทขายอย่างรุนแรงจากผลของการขาดความเชื่อมั่นค่าเงินหยวนมามาทำสถิติอ่อนค่าต่ำสุดในรอบ 17 เดือนผ่านมาที่ระดับ 6.61 ต่อดอลลาร์สหรัฐเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
สาเหตุที่นักลงทุนทั่วโลกมั่นใจในค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอย่างต่อเนื่อง เป็นผลมาจากสงครามรัสเซียกับยูเครนที่ยืดเยื้อ เศรษฐกิจจีนได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากมาตรการล็อกดาวน์นครเซี่ยงไฮ้ และมีแนวโน้มว่าจะล็อกดาวน์กรุงปักกิ่งเนื่องจากพบการระบาดของโรคโควิด-19 มากขึ้นต่อเนื่อง ที่สำคัญ นโยบายไม่อยู่ร่วมโรคโควิด-19 ของจีนแผ่นดินใหญ่ สร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกในด้านระบบโลจิสติกส์ และภาวะเงินเฟ้อ
นอกจากนี้ ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟดจะมีการประชุมตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในวันที่ 3-4 พฤษภาคมนี้ ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงมากที่จะมีมติขึ้นอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวถึง 0.5%
