เยอรมนี38,000 คนประท้วงใหญ่ ต้านใส่หน้ากากอนามัย

877
0
Share:

เจ้าหน้าที่ตำรวจในเมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี เปิดเผยว่า การชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่เมื่อวันเสาร์มีจำนวนผู้ประท้วงมากถึง 38,000 คน โดยเจ้าหน้าที่ต้องใช้กองกำลังมากถึง 3,000 นาย เพื่อควบคุมสถานการณ์การชุมนุมที่เกิดขึ้น และเข้าจับกุมผู้ประท้วงไม่ต่ำกว่า 300 คนที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ให้ใส่หน้ากากอนามัย และต้องรักษาระยะห่าง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บกว่า 7 คนขึ้นไปจากกลุ่มผู้ประท้วงปาก้อนหิน ขวดน้ำ ใส่ตำรวจ ล่าสุด สถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ในเยอรมนี มีผู้ติดโรคโควิด-19 สะสมเป็น 242,825 ราย อยู่อันดับที่ 20 ของโลก และเสียชีวิตสะสมเป็น 9,363 ราย
.
การชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่ยังมีขึ้นพร้อมกันเป็นจำนวนมากในที่บริเวณจัตุรัสทราฟัลการ์ ใจกลางกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ กลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงในกรุงลอนดอนตะโกนว่าโรคระบาดโควิด-19 เป็นเรื่องหลอกลวง และกดดันให้รัฐบาลอังกฤษต้องยกเลิกมาตรการจำกัดทุกรูปแบบ ล่าสุด สถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ในสหราชอาณาจักร มีผู้ติดโรคโควิด-19 สะสมเป็น 332,752 ราย อยู่อันดับที่ 13 ของโลก และเสียชีวิตสะสมเป็น 41,498 ราย
.
ขณะที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส กลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงจำนวนมากล้วนมาชุมนุมด้วยเป้าหมายเดียวกัน คือต่อต้านการใช้มาตรการใส่หน้ากากอนามัย ซึ่งกลุ่มผู้ประท้วงให้เหตุผลว่าเป็นการริดรอนสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล ล่าสุด สถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ในฝรั่งเศส มีผู้ติดโรคโควิด-19 สะสมเป็น 272,530 ราย อยู่อันดับที่ 17 ของโลก และเสียชีวิตสะสมเป็น 30,602ราย นอกจากนี้ ยังมีการชุมนุมประท้วงอย่างสงบในกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย และซูริค ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกมาตรการบังคับใส่หน้ากากอนามัย ซึ่งเป็นการจำกัดและริดรอรสิทธิเสรีภาพของประชาชน
.
ทั้งนี้ การชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่ในเยอรมนีเกิดขึ้นอีกครั้งในสุดสัปดาห์นี้ หลังจากศาลพิจารณาคำร้องขอจัดการชุมนุม และมีคำตัดสินให้จัดการชุมนุมได้ ทั้งๆที่รัฐบาลเยอรมนีมีคำสั่งห้ามการจัดการชุมนุมประท้วง