เริ่มขายหนัก! ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ร่วงเฉียด 100 จุด น้ำมันดิบโลกปิดพุ่งเหนือ 92 ดอลลาร์
เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2565 (ตามเวลาในสหรัฐ) ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 30,423 จุด -99 จุด หรือ -0.33% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 3,695 จุด -24 จุด หรือ -0.67% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 10,680 จุด -91 จุด หรือ -0.85%
สาเหตุจากนักลงทุนผิดหวังกับผลประกอบการไตรมาสที่ 3 โดยเฉพาะยอดขายของบริษัทแอบบอท ลาบอราทอรีย์ ยักษ์ธุรกิจเวชภัณฑ์ชื่อดังระดับโลก ร่วงต่ำกว่าที่คาดไว้มาก เนื่องจากรับผลกระทบค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าและปัญหาซัพพลายการผลิตในจีน ยอดสร้างบ้านใหม่ในสหรัฐอเมริกาของเดือนกันยายนดำดิ่งมากถึง -8.1% ผลสำรวจภาวะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า แรงกดดันเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง
ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 85.55 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +2.73 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +3.3% ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2565 มีราคาพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 130.50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำสถิติราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ที่สูงสุดนับตั้งแต่กันยายน 2008 หรือในรอบ 13 ปี 5 เดือน
ด้านราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 92.41 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล +2.38 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ +2.6% ก่อนหน้านี้ ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ มีราคาสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2008 หรือในรอบ 13 ปี 7 เดือน โดยเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 7 มีนาคม 2565 มีขึ้นมาสูงสุดระหว่างวันที่ระดับ 139.13 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล
สาเหตุจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกาประกาศแผนการปล่อยปริมาณสำรองน้ำมันดิบเชิงยุทธศาสตร์ 15 ล้านบาร์เรลเข้าสู่ตลาดน้ำมันดิบโลก ปริมาณสำรองน้ำมันดิบรายสัปดาห์ในสหรัฐอเมริกาลดต่ำกว่าที่คาดไว้ถึง 1.7 ล้านบาร์เรล
ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,634.20 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ -22.40 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ หรือ -1.3% ทำสถิติราคาปิดต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ ก่อนหน้านี้ ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมีนาคม 2565 ราคาทองคำล่วงหน้ามีราคาสูงสุดระหว่างวันขึ้นไปถึง 2,072.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 หรือในรอบ 18 เดือน
สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพลิกแข็งค่ารวมถึงดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับสูงขึ้นแตะระดับ 112.92 ตามด้วยผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอายุ 10 ปี ย้อนพุ่งสูงขึ้นในรอบกว่า 14 ปี หรือตั้งแต่กรกฎาคม 2008
