เลขาสภาพัฒน์ชี้เงินกู้ 5 แสนล้านของรัฐบาลหมดแล้ว ไฟเขียว 2 ยอดสุดท้ายกว่า 37,000 ล้าน

324
0
Share:
เลขา สภาพัฒน์ ชี้ เงินกู้ 5 แสนล้านของรัฐบาลหมดแล้ว ไฟเขียว 2 ยอดสุดท้ายกว่า 37,000 ล้าน

นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการกลั่นกรองเงินกู้ ตาม พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2565 เปิดเผยว่า ขณะนี้ เงินกู้ฯ ตาม พ.ร.ก. ทั้ง 500,000 ล้านบาทที่มีจำนวนเงินกู้เหลืออยู่บ้างก่อนหน้านั้นหมดลงแล้ว

สถานะของเงินกู้ตาม พ.ร.ก. 500,000 ล้านบาท ปัจจุบันมีเงินที่คงเหลืออยู่ประมาณ 37,000 ล้านบาท พบว่ามีรายการเสนอขอใช้เงินกู้เต็มวงเงินแล้ว ประกอบด้วย การเบิกค่ารักษาพยาบาลโควิด-19 ถึงเดือน มิ.ย.วงเงิน 27,000 ล้านบาท และค่าตอบแทนค่าเสี่ยงภัยให้กับแพทย์และพยาบาลในการรักษาโควิด-19 ประมาณ 10,000 ล้านบาท ซึ่งทั้ง 2 รายการนี้ คณะกรรมการกลั่นกรองเงินกู้ฯ จะเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายในเดือน ก.ย.นี้

หากมีวงเงินการขอเบิกจ่ายที่เกินจากเงินกู้ที่เหลือ จะเสนอของบประมาณจากงบกลางรายการสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินและจำเป็นเร่งด่วนปี 2566

ส่วนการเบิกจ่ายงบเงินกู้ที่ได้อนุมัติไปแล้วขณะนี้สามารถเบิกจ่ายไปได้ก้าวหน้าดีคือประมาณ 70% ของวงเงินที่อนุมัติไปแล้ว ส่วนการเบิกจ่ายในส่วนที่เหลือจะมีการเร่งรัดติดตามให้มีการเบิกจ่ายให้ได้ภายในสิ้นเดือน ธ.ค.ปี 2565 รวมทั้งงบเงินกู้ที่ได้มีการอนุมัติให้ลงไปในโครงการระดับจังหวัด 5,000 กว่าล้านบาท ก็มีระบบการติดตามเบิกจ่ายของกรมบัญชีกลางสำหรับการติดตามการเบิกจ่ายแล้ว

นายดนุชากล่าวว่า แนวทางการบริหารเศรษฐกิจของรัฐบาล หน่วยงานที่ดูแลทางด้านเศรษฐกิจได้แก่ กระทรวงการคลัง สศช. และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะต้องมาหารือกันถึงแนวทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในช่วง 4 เดือนสุดท้ายของปีนี้ โดยแนวทางคงไม่ใช่เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจเนื่องจากในภาพรวมแล้วเศรษฐกิจของประเทศยังสามารถที่จะเดินไปได้ แต่ยังมีความจำเป็นที่จะต้องช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบจากราคาพลังงานที่ปรับขึ้น รวมทั้งค่าไฟฟ้าที่ปรับขึ้น ซึ่งต้องทำควบคู่ไปกับมาตรการในการส่งเสริมการประหยัดพลังงานอย่างจริงจัง