เวียดนามหนึ่งเดียวในอาเซียน ปิดชั่วคราว-เจ๊งถาวรน้อยกว่าไทย

809
0
Share:

องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ หรือโออีซีดี เปิดเผยผลสำรวจที่มีชื่อว่า รายงานสถานะธุรกิจขนาดเล็กทั่วโลก หรือ Global State of Small Business Report พบว่า ธุรกิจขนาดกลางและเล็ก หรือธุรกิจเอสเอ็มอีทั่วโลกมีความแข็งแกร่งและความยืดหยุ่นที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเมื่อเผชิญกับวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 ซึ่งนำไปสู่วิกฤตเศรษฐกิจโลกที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 80 ปี
.
ผลสำรวจพบว่า ธุรกิจเอสเอ็มอียกเลิกการผลิต หรือปิดกิจการถาวรทั่วโลกมี 6 กลุ่ม สำหรับภูมิภาคเอเชียและอาเซียนนั้น ธุรกิจเอสเอ็มอีของประเทศเวียดนามยกเลิกการผลิต หรือปิดกิจการถาวรมีอยู่ระหว่าง 11-20% ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มที่ 2 ของโลก โดยมีฝรั่งเศสและอิตาลีอยู่ในกลุ่มที่ 2 ด้วย ในขณะที่ธุรกิจเอสเอ็มอีของประเทศไทย ยกเลิกการผลิต หรือปิดกิจการถาวรมีอยู่ระหว่าง 21-30 % ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มที่ 3 ของโลก โดยมีสหรัฐอเมริกา และรัสเซียรวมอยู่ในกลุ่มที่ 3 ด้วยเป็นต้น
.
รายงานผลสำรวจดังกล่าว เปิดเผยว่า ค่าเฉลี่ยธุรกิจเอสเอ็มอียกเลิกการผลิต หรือปิดกิจการถาวรทั่วโลกอยู่ที่ 26% สำหรับกลุ่มที่ 1 ที่เป็นธุรกิจเอสเอ็มอียกเลิกการผลิต หรือปิดกิจการถาวรน้อยที่สุดในโลก ได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เยอรมนี ซึ่งมีสัดส่วนเอสเอ็มอียกเลิกการผลิต หรือปิดกิจการถาวรทั่วโลกระหว่าง 0-10% ในขณะที่กลุ่มที่ 6 ซึ่งมีสัดส่วนธุรกิจเอสเอ็มอี 51-60% ยกเลิกการผลิต หรือปิดกิจการถาวรสูงที่สุด ได้แก่ ไอร์แลนด์ ที่สำคัญเป็นกลุ่มสุดท้ายที่ธุรกิจเอสเอ็มอีมีความแข็งแกร่งและการปรับตัวต่ำที่สุดในโลกด้วย
.
ทั้งนี้ โออีซีดี ยังเปิดเผยว่า อุตสาหกรรมสำคัญที่มีการยกเลิกการผลิตหรือการให้บริการ หรือปิดกิจการถาวร มี 5 อันดับแรก ได้แก่ อีเวนต์ 33% ท่องเที่ยว 30% การศึกษาและบริการดูแลเลี้ยงดู 29% การเดินทางและการขนส่ง 20% และอันดับสุดท้าย ได้แก่ โรงแรมและร้านอาหาร 19%