เศรษฐกิจเอเชียถูกลดเป้าจีดีพีกว่า 1% ฉุดเหลือไม่ถึง 7%

312
0
Share:
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ เปิดเผยว่า ได้ปรับลดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือจีดีพีในปีนี้ของทวีปเอเชียซึ่งเป็นทวีปที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยลดจากเดิมที่ระดับ 7.6% ซึ่งคาดการณ์เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา มาเหลือเพียง 6.5%
.
สาเหตุจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า หรืออินเดีย ที่ระบาดสูงในช่วงกลางปีนี้เป็นต้นมา ยังคงส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจในเอเชียต่อเนื่อง โดยเฉพาะการประกาศใช้มาตรการควบคุมและป้องกันโรคระบาดโควิด-19 ที่กระทบต่อภาคบริการ และภาคการผลิตอุตสาหกรรม ทำให้มีจำนวนธุรกิจต้องปิดสายการผลิตชั่วคราว และเกิดความไม่ต่อเนื่องทางธุรกิจ ท่ามกลางความต้องการสินค้าส่งออกจากประเทศในทวีปเอเชีย
.
นอกจากนี้ ปัจจัยภาวะเงินเฟ้อในระดับสูง ภาวะห่วงโซ่การผลิตที่สะดุดหยุดลงมากขึ้น กลายเป็นอีก 2 ปัจจัยสำคัญที่ฉุดการเติบโตของเศรษฐกิจในทวีปเอเชียปีนี้
.
ไอเอ็มเอฟ กล่าวว่า ภายในทวีปเอเชียนั้น เศรษฐกิจในกลุ่มประเทศกำล้งพัฒนาได้รับผลกระทบมากที่สุด และได้รับการปรับลดอัตราการขยายตัวหรือจีดีพีมากที่สุด ได้แก่ ประเทศเมียนมา จะมีภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำเลวร้ายถึง -17.9% ในปีนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2563 ซึ่งเป็นตัวเลขที่ปรับลดลงจากเดิมถึง 9% ประเทศฟิลิปปินส์ถูกลดจีดีพีจากเดิมที่ 3.7% เหลือ 3.2% และมาเลเซียถูกลดจีดีพีมากถึง 3% ลงมาเหลือเพียง 3.5% จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโตถึง 6.5%
ในทางตรงกันข้าม ไอเอ็มเอฟปรับขึ้นตัวเลขจีดีพีของฮ่องกงในปี 2564 เป็น 6.4% จากเดิมที่ 4.3% และสิงคโปร์มาจีดีพีเพิ่มจากที่ 5.2% เป็น 6% ในปีนี้ ส่วนเศรษฐกิจจีนแผ่นดินใหญ่ยังคงมีอัตราการขยายตัวที่ 8% และอินเดียจะเติบโตที่ระดับ 9.5%