เหลือแค่ 22%! แอฟริกาใต้เผยวัคซีนไฟเซอร์ 2 โดสต้านพันธุ์โอไมครอนได้แค่ 22.5%

สถาบันวิจัยสาธารณสุขแอฟริกาในเมืองเดอร์แบน เปิดเผยว่า ผลการทดลองประสิทธิภาพของวัคซีนไฟเซอร์เมื่อฉีดครบ 2 โดสในห้องแลปที่ประเทศแอฟริกาใต้ พบว่าประสิทธิภาพในการป้องกันโรคระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนที่มีการแสดงอาการป่วยลดต่ำลงเหลือเพียง 22.5% อย่างไรก็ตาม วัคซีนไฟเซอร์ครบ 2 โดสยังคงสามารถต้านอาการเจ็บป่วยรุนแรง

นักวิจัยกล่าวว่า ผลการทดลองที่ได้มาจากกลุ่มเลือดพลาสม่าจำนวนเพียง 12 ตัวอย่าง ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มตัวอย่างขนาดเล็ก แต่ผลที่ได้ถือเป็นสัญญาณที่ต้องหาคำตอบในการยืนยันอย่างชัดเจนต่อไป

ก่อนหน้านี้ ศาตราจารย์ อเล็กซ์ ซีกัล หัวหน้าคณะนักวิจัยทางวิทยาศาสตร์ พร้อมด้วยนักวิทยาศาสตร์จำนวนหนึ่ง และสถาบันวิจัยสาธารณสุขแอฟริกา เปิดเผยว่า ได้ทำการทดลองและตรวจสอบตัวอย่างเลือดของผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์มาก่อนหน้านี้จำนวน 12 ราย เพื่อต้องการค้นหาว่าภูมิต้านทานโรคระบาดโควิด-19 ในร่างกายที่เกิดขึ้นจากการฉีดวัคซีนนั้น จะสามารถต้านโรคระบาดโควิด-19 ได้ดีหรือไม่ หรืออีกความหมายหนึ่ง คือวัคซีนสามารถปิดกั้นความสามารถของพันธ์ุโอไมครอนที่จะทำให้เซลล์ได้นับการติดเชื้อ

ผลปรากฎว่า ภูมิต้านทานที่เกิดขึ้นจากการถูกฉีดวัคซีนไฟเซอร์ลดลงมากถึง 41 เท่า เมื่อเจอกับเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอไมครอน เมื่อเปรียบเทียบกับสายพันธุ์ดั้งเดิม ผลการศึกษาเบื้องต้นดังกล่าวยังไม่ได้ทำการบันทึกในวาสารการแพทย์ ในขณะเดียวกัน ภูมิต้านทานในร่างกายที่เกิดขึ้นจากวัคซีนดังกล่าวลดลง 3 เท่าเมื่อเจอกับสายพันธุ์เบต้าที่เป็นสายพันธุ์หลักในการระบาดในประเทศแอฟริกาใต้เมื่อปีที่ผ่านมา ข้อสรุปที่ได้ในเบื้องต้นเป็นที่ชัดเจนว่า สายพันธุ์โอไมครอนมีความสามารถหลบเลี่ยงภูมิต้านทานในร่างกายได้สูง