เอกชนมีเฮ! นายกฯสั่งลดค่าไฟฟ้างวด ม.ค.-เม.ย.66 ให้กลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทอื่นๆ

201
0
Share:
เอกชนมีเฮ! นายก ฯ สั่งลด ค่าไฟฟ้า งวด ม.ค.-เม.ย.66 ให้กลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทอื่นๆ

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า แนวทางการช่วยเหลือค่าไฟฟ้างวดแรกปี 1/2566 (ม.ค. – เม.ย.) สำหรับกลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทอื่นๆ (ที่ไม่ใช่บ้านอยู่อาศัย) โดยปรับลดลงจากเดิมที่ไฟฟ้าผันแปร (เอฟที) อยู่ที่ 190.44 สตางค์/หน่วย ส่งผลค่าไฟฟ้าเฉลี่ยเมื่อรวมค่าไฟฐาน อยู่ที่ 5.69 บาท/หน่วย นั้น นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้พิจารณาตามข้อเรียกร้องของเอกชน ซึ่งผลกระทบนี้เกิดจาก ปัญหาราคาต้นทุนเชื้อเพลิงแพง และได้พยายามเกลี่ยต้นทุน ทำให้ค่าไฟฟ้าสามารถลดต้นทุนได้บางส่วน แต่ก็ยังจำเป็นต้องมีการคืนหนี้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ด้วยบางส่วน จากเดิมจะต้องคืนหนี้ 33 สตางค์/หน่วย จากวงเงินที่ กฟผ.รับภาระค่าเชื้อเพลิงให้ก่อนไม่ต่ำกว่า 1.2 แสนล้านบาท โดยได้มอบให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) นำกลับไปพิจารณาแนวทางและกำหนดอัตราที่เหมาะสมใหม่ คาดว่า กกพ.ที่น่าจะมีคำตอบภายใน 1-2 วันนี้

“นายกฯ สั่งให้ทบทวนต้นทุนพื่อบรรเทาผลกระทบ แต่จะให้ไม่ขึ้นเลยก็ไม่ได้ เพราะหลักๆมาจากต้นทุนเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี ) และก็อยากขอให้เอกชนมาร่วมมือกัน ไม่ว่าจะเป็นการประหยัดพลังงาน หรือโรงงานใดเปลี่ยนเชื้อเพลิงจากไฟฟ้าไปน้ำมันเตาแทนชั่วคราวได้หรือไม่ หรือถ้าธนาคารพาณิชย์ ช่วยลดดอกเบี้ยเงินกู้ให้กับ กฟผ. ก็น่าจะเป็นการฝ่าวิกฤตไปร่วมกัน ส่วนที่ระบุว่า ค่าไฟฟ้าไทยแพงกว่าเพื่อนบ้านที่จัดเก็บเพียง 2 บาทต่อหน่วยนั้น เรื่องนี้ก็ได้มีการตรวจสอบจากนักลงทุนที่ลงทุนในประเทศดังกล่าว ก็ไม่เห็นค่าไฟฟ้าอัตรานี้แต่อย่างใด ส่วนสำรองไฟฟ้าที่ว่าสูงกว่า 60 % นั้นก็เข้าใจว่าน่าจะคลาดเคลื่อน สำรองที่สูงก็ไม่ได้เกิดจากรัฐบาลชุดนี้ และต้องยอมรับว่า สำรองที่สูงส่วนหนึ่งก็มาจากเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป เอกชนก็มีการผลิตไฟฟ้าใช้เอง (ไอพีเอส) ทำให้ต้นทุนต่ำลง” นายสุพัฒนพงษ์กล่าว