เอกชนยืนยันความพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม APEC CEO Summit 2022 ในรอบเกือบ 20 ปี
นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการหอการค้าไทย ในฐานะประธานและเจ้าภาพการจัดงาน APEC CEO Summit 2022 ระหว่างวันที่ 16-18 พ.ย.2565 เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมในการจัดงานในส่วนของภาคเอกชน ว่า ขณะนี้ประเทศไทยมีความพร้อมแล้วในทุกด้าน ไม่ว่าด้านสถานที่จัดการประชุม การดูแลต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุม การรักษาความปลอดภัย และการจัดงานเลี้ยงรับรอง โดยเฉพาะโปรแกรมการประชุมที่ครอบคลุมทุกด้านทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และสังคม และยังมีการยืนยันการเข้าร่วมงานจากผู้นำเขตเศรษฐกิจ ผู้นำองค์กรโลกที่สำคัญ ผู้นำทางความคิด และซีอีโอระดับแนวหน้าจากทุกเขตเศรษฐกิจในการเข้าร่วมประชุม เพื่อรับฟัง แสดงความคิดเห็น และแบ่งปันคำแนะนำที่สามารถนำไปสู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภูมิภาค
โดยการประชุม APEC CEO Summit 2022 ในครั้งนี้ เป็นการประชุมในรอบเกือบ 20 ปี หลังจากที่ไทยเป็นเจ้าภาพครั้งล่าสุดเมื่อปี 2003 และยังเป็นการประชุมแบบพบปะกันเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี หลังทั่วโลกเผชิญกับโควิด-19 โดยประเด็นการประชุมที่สำคัญ จะเน้นการฟื้นฟูเศรษฐกิจที่กำลังเผชิญกับความท้าทายต่าง ๆ ทั้งด้านภาวะขาดแคลนอาหาร วิกฤตพลังงาน ภาวะเงินเฟ้อ และการฟื้นฟูเศรษฐกิจจากโควิด-19 โดยคาดว่าจะมีผู้นำภาคธุรกิจจากทั่วทั้งเอเชียและแปซิฟิกไม่ต่ำกว่า 500-600 คนเข้าร่วม และมีผู้บริหารระดับสูงในไทยกว่า 200 คน
สำหรับรูปแบบการประชุม จะเน้นการประชุมแบบ Green Meeting หรือการจัดการประชุมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีการหมุนเวียนการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดและลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางความยั่งยืน พร้อมจัดทำ Carbon Footprint ที่ส่งเสริมการประหยัดพลังงานและลดปริมาณขยะ โดยหนึ่งในตัวอย่างที่นำมาใช้ คือ การนำ Mobile Application มาใช้ในการดูแลผู้เข้าร่วมประชุม ซึ่งผู้เข้าร่วมงานสามารถลงทะเบียน รับเอกสารดิจิทัล และอำนวยความสะดวกทุกรูปแบบผ่านแอปพลิเคชันที่จะช่วยลดปริมาณขยะทางกระดาษ และยังมีการส่งเสริมด้านสิ่งแวดล้อมผ่านการเลือกสถานที่, การจัดเตรียมอุปกรณ์ และการจัดเตรียมอาหารและเครื่องดื่ม ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) และประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำภาคเอกชนเอเปกในครั้งนี้ จะเป็นโอกาสอันดีที่ไทยจะได้แสดงศักยภาพทางการค้า การลงทุน และการแข่งขันของไทยในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นด้านอาหาร การท่องเที่ยว อุตสาหกรรมด้านสุขภาพ และอุตสาหกรรมยานยนต์ เป็นต้น
