เอกชนห่วงดีเซลพุ่งขึ้นถึง 40 บาท ชี้ชัดภาวะรายได้โตไม่ทันเงินเฟ้อพุ่งสูงห่าง

292
0
Share:

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนพฤษภาคมที่สูงขึ้น 7.1% ไม่เพียงทำสถิติสูงกว่าค่าเฉลี่ย 5 เดือนแรกปี 2565 อยู่ที่ 5.1% แต่ยังทำสถิติสูงกว่ากรอบประมาณการของคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) คาดไว้ที่ 5.5% นั้น มาจากราคาน้ำมันสูงขึ้น เชื่อว่าราคาน้ำมันจะยังสูงต่อเนื่องจนถึงสิ้นปี 2565 อยู่ในระดับ 110-120 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล นอกจากนี้ หลังเดือนกรกฎาคมผ่านไป ราคาน้ำมันจะเพิ่มสูงขึ้นอีก เนื่องจากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว รวมทั้งจีน เริ่มคลายล็อกจากโควิด ทำให้ความต้องการใช้มากขึ้น อาจได้เห็นราคาน้ำมันดีเซลในไทยสูงแตะ 40 บาทต่อลิตรได้

ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า วันนี้ประเทศไทยเผชิญเงินเฟ้อจากราคาพลังงานที่สูงขึ้น แต่อนาคตอันใกล้อาจเจอเงินเฟ้อจากสินค้าราคาแพงเพิ่มเติมขึ้นอีก สิ่งที่น่ากังวลคือ ค่าครองชีพที่สูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อรายได้หรือความสามารถในการใช้จ่ายโตไม่ทันกับภาวะเงินเฟ้อ สภาพเศรษฐกิจที่ยังฟื้นตัวได้ไม่เต็มที่ เม็ดเงินจากการท่องเที่ยวยังเข้ามาไม่มากพอที่จะขับเคลื่อนธุรกิจภาคบริการได้

ปัจจัยเหล่านี้อาจส่งผลให้เศรษฐกิจไทยในปี 2565 เติบโตต่ำกว่าที่ประมาณการไว้ แม้การส่งออกช่วงที่ผ่านมาจะมีทิศทางที่ดี แต่สงครามรัสเซียกับยูเครนที่ยืดเยื้อ ยังเป็นปัจจัยบั่นทอนมากพอสมควร ทั้งต้นทุนวัตถุดิบ ปุ๋ย รวมถึงราคาพลังงาน ซึ่งกระทบกับค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้นแล้วมากกว่า 20%

ทั้งนี้ หอการค้าไทย เห็นว่ารัฐบาลต้องพยายามตรึงราคาน้ำมันดีเซลให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อรอให้เศรษฐกิจประเทศฟื้นตัวได้มากกว่านี้ก่อน ต้องหารือกันอย่างเร่งด่วน เพื่อให้มีมาตรการต่างๆ ออกมาช่วยบรรเทาผลกระทบค่าครองชีพของประชาชน พร้อมเติมสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการ อาทิ เร่งรัดการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้รวดเร็วขึ้น